Author

iloveaday

Browsing
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟรวบรวมเอาน้ำหอม 10 ยี่ห้อที่มีในกรุมารีวิวให้สาวๆ ได้ดูกัน
จะบอกว่าแต่ละตัวเด็ดๆ และควรมีทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะสาวสไตล์ไหน จะสไตล์คุณหนู ลุคสาวร่าเริงสดใส
สาวหวาน หรือเรียบหรูดูดี อ๊อฟก็คัดมาให้เหมาะกับสาวๆ ทุกคนแล้ว จะเป็นยี่ห้อไหนบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ น้ำหอมที่อ๊อฟนำมารีวิวให้สาวๆ ได้ดูกัน อยากให้จอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรศัพท์
รับกลิ่นได้จริงๆ จะได้รู้ว่ามันหอมแค่ไหน คอนเท้นท์หน้าจะเป็นอะไร
อย่าลืมติดตามและให้กำลังใจกันด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟกลับมาพร้อมกับรีวิวจัดแน่นจัดเต็มกับดินสอเขียนคิ้ว 25 แท่ง ทั้งแบบปากกา แบบดินสอ
แบบเจล แบบฝุ่น ที่อ๊อฟใช้ มาหลากหลายยี่ห้อ รวบรวมมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันว่าตัวไหนเขียนสวย ตัวไหนใช้แล้ว
ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
อ๊อฟทำภาพรีวิวมาให้เข้าใจง่าย ดูเพลินๆ หวังว่าจะชอบกันน้าาาเป็นยังไงกันบ้างคะ ดูกันแบบเต็มอิ่ม ทั้งหมดนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของอ๊อฟหลังจากที่ใช้มา
ถ้าเกิดเพื่อนๆ ใช้แล้วชอบไม่ชอบตัวไหน มีตัวไหนดีๆ เด็ดๆ ก็แวะมาแชร์ความคิดเห็นกับอ๊อฟได้นะคะ
รีวิวหน้าจะเป็นอะไร รับรองว่าอ๊อฟจัดแน่นจัดเต็มมาให้อีกแน่นอน รอติดตามอ่านกันด้วยน้าาา
สวัสดีค่ะวันนี้อ๊อฟทำงานเสร็จเรียบร้อยเลยจะชวนคุณแม่ออกไปทานข้าวและซื้อของสักหน่อย
แต่เวลาชวนคุณแม่ทีไร คุณแม่ชอบปฎิเสธและบอกว่าทำไมไม่ชวนล่วงหน้าจะได้เข้าร้านทำผมก่อน

จะเข้าร้านผมทำไมให้เสียเวลาสถานการณ์เร่งด่วนขนาดนี้ อ๊อฟก็มี L’Oreal Magic Retouch Spray 
สเปรย์ปิดผมขาว ปิดผมเหม่ง สารพัดจะปกปิด ผมบางผมน้อยควรมีไว้เป็นตัวช่วยสำคัญ
พอเอามาให้คุณแม่ลองใช้ คุณแม่ถึงกับตื่นเต้นเพราะปกติจะต้องโกรกต้องย้อมผมก่อนจะออกไปข้างนอก
อันนี้แค่ฉีดสเปรย์ก็ปิดผมหงอกได้แล้ว สะดวกและประหยัดเวลามาก ไม่ต้องเสียเวลาเข้าร้านทำผมเลย

L’Oreal Magic Retouch Spray ลอรีอัล เมจิก รีทัช สเปรย์ปกปิดผมขาวแบบแนบสนิท ใน 3 วินาที
ที่มียอดขายอันดับ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์ปกปิดโคนผมขาวของโลก*
เปลี่ยนสีผมให้ดูกลมกลืนและให้ผลลัพธ์สีผมดูเป็นธรรมชาติ สม่ำเสมอ แห้งไว
ล้างออกง่ายด้วยแชมพู ติดทนนานไม่เลอะและเปื้อนระหว่างวัน
L’Oreal Magic Retouch Spray มาในขวดสเปรย์สีฟ้าขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย
หัวสเปรย์เป็นหัวฉีดขนาดเล็ก ฉีดง่ายและพ่นกระจายสีได้อย่างสม่ำเสมอ
Magic Retouch ( ราคา 349 บาท / 75 ml.)
ซึ่งทั้งหมดก็มี 5 เฉดสีด้วยกัน เหมาะกับสีผมของคนไทยมาก
ไม่ว่าใครจะสีผมธรรมชาติหรือไปทำสีผมมาเค้าก็มีให้เลือก
ซึ่งมันติดทนมากไม่ต้องกลัวว่าฉีดไปจะเลือนหายระหว่างวัน ถ้าไม่สระผมก็ไม่หลุดจ้า

มาเริ่มที่สีผมธรรมชาติของคุณแม่ก่อน คุณแม่มีผมสีดำแต่กลางศีรษะและตามโคนผมมีผมหงอก

ช่วงกลางศีรษะก็บางด้วย ดังนั้นคุณแม่เลยเลือกใช้สเปรย์ปิดผมขาวสีดำค่ะ

ซึ่งวิธีการใช้ก็ง่ายมากเลยค่ะ เพียงแค่เขย่าขวดก่อนใช้งานและตั้งขวดให้อยู่ในลักษณะตรง

ถือกระป๋องห่างจากผมและรากผมประมาณ 10 ซม. แล้วค่อยๆ สเปรย์ค่ะ

อย่าสเปรย์ในปริมาณมากค่อยๆ สเปรย์เพียงเล็กน้อยก็พอค่ะ
ทิ้งให้แห้ง 1 นาที หวีเพื่อเกลี่ยสีให้เนียนและลดสเปรย์ส่วนเกินออกจากเส้นผมก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ

จะเห็นว่าปิดผมได้ธรรมชาติมาก ไม่เห็นผมหงอกให้กวนใจแถมผมยังดูหนาขึ้นอีกด้วย

ตามโคนผมด้านในก็ปิดได้ดีมาก จะเสยผมเกล้าผมก็ไม่ต้องกลัวผมขาวโผล่

 

ต่อมาก็เป็นตาอ๊อฟแล้ว ผมขาวไม่มีแต่หัวเหม่งมาก ยิ่งบริเวณตามแนวผม ผมมันจะขาดๆ แหว่งๆ

ของอ๊อฟทำสีผมมาเลยเลือกสี Golden Brown ค่ะ สีนี้จะออกน้ำตาลทอง ตรงกับสีผมอ๊อฟเป๊ะเลย

วิธีการใช้ก็เหมือนกันค่ะ ง่ายๆ ไม่ยากเลย ตรงไหนเหม่ง ตรงไหนผมบางก็ฉีดเข้าไป

หลังฉีดเสร็จก็เหมือนเดิมค่ะ หวีผมทำการลดสีส่วนเกิน

หลังฉีดเสร็จผมดูหนาและเต็มขึ้นมาทันที แถมสีผมก็ธรรมชาติมากดูไม่หลอกตาเลย

สรุปเลยละกัน L’Oreal Magic Retouch Spray เป็นสเปรย์ที่ปิดผมขาว
ผมหงอก ผมบาง สีผมไม่สม่ำเสมอได้ดีและธรรมชาติมว๊ากกกก
เหมาะกับชั่วโมงเร่งรีบหรือสถาการณ์เร่งด่วน เพราะใช้เวลาไม่นาน แปปเดียวก็พร้อมออกจากบ้านได้

ที่สำคัญมันใช้ได้แทบทุกเฉดสีผมของคนไทยเลย เห็นคุณแม่ใช้แล้วผมดำ ผมหนาขึ้น
คุณพ่ออ๊อฟนี่มองตาปริบๆ จะขอไปใช้ปิดหัวล้านบ้าง 555

 

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับอ๊อฟอีกแล้วแน่นอนว่าต้องมีอะไรใหม่ๆ เด็ดๆ เจ๋งๆ
มาแนะนำกันอีกเช่นเคย วันนี้เรียกได้ว่าเปิดบ้านรีวิวกันเลย
พูดถึงบ้านช่วงเช้าถึงเย็นเนี่ยอ๊อฟจะชอบเปิดประตูและหน้าต่างทิ้งไว้
เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้ามา แน่นอนว่าลมเย็นสบายทั้งวัน แต่ก็หอบฝุ่น สิ่งสกปรกและเชื้อโรค
เข้ามาในบ้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางทีวี เครื่องเสียงลำโพงล้วนแล้วแต่มีฝุ่นเกาะทั้งนั้น
ฝุ่นในที่นี้คือที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและเอามือลูบสัมผัสได้
แต่ยังมีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกอีกมากมายที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นปัญหาโลกแตกของคนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง
ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาและน้องแมว ต่างก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับขนของเจ้าตัวยุ่งทั้งนั้น
และแน่นอนว่าอ๊อฟก็เช่นกัน ปัญหาคัดจมูกฟึดฟัดๆ ที่เกิดจากภูมิแพ้อากาศบวกกับขนแมว
เข้าไปอีก ทุกครั้งที่ตื่นนอนมาต้องคัดจมูกทุกที ดังนั้นวันนี้อ๊อฟเลยมีตัวช่วยที่ช่วย
ตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ นอกจากจะให้ลมที่เย็นสบายแล้วยังทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นอีกด้วย
และที่เห็นดีไซน์เก๋ๆ ล้ำๆ อยู่ตรงหน้าอ๊อฟก็คือ Dyson Pure Cool
พัดลมฟอกอากาศได้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง “ รับรู้และดักจับกระจายอากาศ “
หลังจากนั้นจึงกระจายอากาศบริสุทธิ์ที่ผ่านการกรองแล้วให้เย็นไปทั่วทั้งห้อง
ถ้าพูดถึงเรื่องดีไซน์ต้องให้ Dyson เค้านะ ดีไซน์ทรงสูงแบบทาวเวอร์
ดูทันสมัยและประหยัดพื้นที่ในการวาง ไม่เกะกะ
และสามารถยกไปใช้งานในห้องต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย
และด้วยเทคโนโลยีของ Dyson ที่ช่วยกระจายอากาศไปทั่วห้อง
ไม่ว่าห้องจะกว้างขนาดไหน อยู่คอนโด หรือ บ้าน
ก็ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Dyson Pure Cool เค้าใช้เทคโนโลยี Air Multiplier
ช่วยปล่อยแรงลมอันนุ่มนวลและทรงพลังได้ถึง 290 ลิตรต่อวินาที
และผสานเข้ากับการหมุนส่ายถึง 350 องศา
เพื่อปล่อยและไหลเวียนอากาศบริสุทธิ์ที่ผ่านการกรองแล้วไปทั่วทุกมุมห้อง
ตัวฟิลเตอร์ในพัดลมฟอกอากาศได้ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่
เพื่อดักจับทั้งฝุ่นละอองและแก๊ส และเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับ
แก๊สกลิ่นต่างๆควันพิษและสาร VOCs
พัดลมฟอกอากาศ Dyson Pure Cool สามารถรายงานคุณภาพอากาศบนหน้าจอ LCD
แบบเรียลไทม์เรียกได้ว่าตรวจจับและรายงานให้เรารู้ตลอดเวลาถึงสารมลพิษเป็นอันตราย
ที่อยู่ในอากาศ ระบบการกรองชั้นสูงของเครื่องช่วยให้สามารถดักจับได้ถึง 99.95%
ของอนุภาคสารมลพิษขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน รายงานและเก็บสถิติ
แน่นหนาขนาดนี้ไม่เชื่อได้ยังไงเนอะ
มาพร้อมกับรีโมทขนาดกะทัดรัดที่ช่วยควบคุมการทำงาน ซึ่งใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนเลยค่ะ
ปุ่มเปิด/ปิดการทำงานของเครื่อง
ปุ่มตัว i หน้าจอจะแสดงข้อมูลคุณภาพอากาศล่าสุดภายในห้องและยังสามารถ
ตรวจสอบอายุการใช้งานและการดูแลรักษาตัวกรองผ่านทางหน้าจอหรือทางแอพ
สามารถปรับความแรงของลมได้ตั้งแต่ระดับ 1-10 ถ้าระดับ 10 เสียงจะค่อนข้างดังค่ะ
โหมด Auto ถ้าตรวจพบว่าคุณภาพอากาศต่ำกว่ามาตรฐานก็จะฟอกอากาศให้อัตโนมัติ
โหมดสวิง สำหรับปรับมุมการส่ายของพัดลมฟอกอากาศได้ตั้งแต่ 45 ถึง 350 องศา
โหมดกลางคืนตั้งเวลาการนอนและตั้งค่าเสียงที่เบาที่สุดพร้อมหรี่ไฟ LCD ลง
นอกจากนั้นยังตั้งค่าเปิดเครื่องเวลานอนเพื่อปิดพัดลมฟอกอากาศเป็นระยะเวลา
นานเท่าไหร่ก็ได้ตั้งแต่ 1 – 8 ชั่วโมง
หมดปัญหาเรื่องรีโมทหายเพราะทาง Dyson เค้าทำที่เก็บรีโมทออกมาเพื่อสาวโก๊ะๆ แบบเรา
ที่ใช้รีโมททีหายที ไม่รู้ว่าใช้เสร็จแล้วไปวางไว้ที่ไหน แต่กับเจ้า Dyson ไม่ต้องเป็นห่วงไป
เพียงแค่หันเจ้ารีโมทเข้าด้านในแล้วแปะกับตัวเครื่องพัดลมที่โค้งๆ
ตัวแม่เหล็กก็จะดูดรีโมทให้ยึดติดกับตัวเครื่องค่ะ
นอกจากจะควบคุมการทำงานผ่านรีโมทแล้ว ด้วยความทันสมัยและเทคโนโลยีล้ำๆ ของทาง
Dyson สามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพอากาศในบ้านได้จากทุกที่ทุกเวลา
โดยผ่านแอพ Dyson Link ซึ่งมีทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ ios
เชื่อมต่อผ่านทาง wifi เพียงเท่านี้เราก็สามารถรู้ถึงอุณหภูมิและความชื้นที่อยู่ภายใน
บ้านและเปรียบเทียบกับอากาศที่อยู่ภายนอกบ้าน
หลักๆ อ๊อฟชอบความสะดวกสบายที่ไม่ต้องควานหารีโมทมากกว่า
เพราะเราใช้โทรศัพท์แทบจะตลอดเวลา สามารถหยิบขึ้นมาดูเมื่อไหร่ก็ได้
และยังปรับอุณหภูมิหรือตั้งเวลาเปิดปิดก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านมือถือเลย
ขณะที่อ๊อฟกำลังเปิดเจ้าเครื่องนี้อยู่กลิ่นผัดกะเพราของแม่ก็ลอยออกมาจากครัวแต่ไกล
ทำให้อากาศภายในบ้านแย่ถึงกับขึ้น very poor เลย แสดงว่าไม่โอเคมากๆ
เมื่ออากาศแย่เราก็สามารถสั่งงานให้เครื่องฟอกอากาศ
อัตโนมัติได้ทันที รอไม่นานอากาศก็กลับมาดีและมีคุณภาพอีกครั้ง
และด้วยการออกแบบที่ไร้ใบพัด บ้านไหนที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงหมดห่วงได้เลย
ไม่เป็นอันตรายต่อคนในบ้านแน่นอน
มาถึงวิธีการดูแลรักษา ถ้าเป็นตัวเครื่องภายนอก
เพียงแค่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดฝุ่นรอบตัวเครื่องง่ายๆ ก็เป็นอันเรียบร้อย
ไม่ต้องถอดออกมาล้างให้ยุ่งยากเลยค่ะ
และการเปลี่ยนตัวกรองใหม่ก็ง่ายมากผู้หญิงอย่างเราก็ทำได้เพียงแค่ถอดตัวกรองเก่าออกมา
แล้วเปลี่ยนตัวใหม่เข้าไปแทนที่ก็เป็นอันเรียบร้อย
ซึ่งระยะเวลาการใช้งานของตัวกรองก็มีระยะเวลาประมาณ 1 ปีค่ะ
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็อยากจะบอกว่าเจ้าเครื่อง Dyson Pure Cool
ไม่ว่าจะแพ้อากาศ แพ้เกสรดอกไม้ แพ้ฝุ่นอะไรก็แล้วแต่ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
รู้สึกฟึดฟัดตอนตื่นนอน ตาบวม คัดจมูกน้ำมูกไหล
ก็ถือว่าเป็นการป้องกันหรือแก้ปัญหาทางต้นเหตุได้ดีอีกวิธีหนึ่ง
นอกจากนั้นยังเหมาะกับบ้านที่มีเด็กโดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง
หรือเด็กวัยกำลังซนชอบเอานิ้วแหย่พัดลม เจ้าเครื่องนี้ไม่มีใบพัดไม่อันตรายแน่นอน
และยังเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สูงอายุภายในบ้านเพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายเริ่มอ่อนแอ
อาจทำให้ไม่สบายได้ง่าย การมีเครื่องฟอกอากาศเครื่องนี้ไว้ในบ้านก็ถือเป็นการ
ช่วยดูแลสุขภาพของคนที่เรารักได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับคนที่สนใจเครื่องฟอกอากาศ Dyson Pure Cool
สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
โดยแบบตั้งโต๊ะ (DP04) ราคา 19,900 บาทและแบบตั้งพื้น (TP04) ราคา 28,900 บาท
อากาศดีๆ แบบนี้อ๊อฟต้องขอตัวไปงีบก่อนน้าาาาา

สวัสดีค่ะ เมื่อเสาร์ – อาทิตย์ที่ผ่านมาอ๊อฟไปทำงานที่จังหวัดราชบุรีมา
คือตอนที่จะได้ไปที่ราชบุรีก็เคยเห็นข่าวเห็นรีวิวขนมจีนร้านนึงที่ผักเยอะมาก
เยอะอย่างกับร้านขายผัก เลยปักหมุดไว้ว่าถ้าได้ไปที่ราชบุรีต้องไปกินให้ได้
และก็คะยั้นคะยอให้แฟนพาไปจนได้ ตอนแรกที่ไปคิิวเยอะมาก ต่อคิวกันยาวสุดๆ
คนหลั่งไหลมาจากกระแสโซเชียล ไม่ว่าจะมาจากสังขละบุรี จากกรุงเทพ
ต่างตามมาจากรีวิวกันทั้งนั้น ที่รู้เพราะแอบไปกระซิบถามพี่คนที่เค้ายืนรอคิวกัน
ตอนรอคิวก็แอบคุยกับเจ๊ติ๊ก ซึ่งแกก็วุ่นอยู่กับการจัดคิวลูกค้าอยู่
ดูคนที่นั่งกินและที่ตอแถวรอสิ เอาวะ วันนี้ต้องได้กินกะเค้าซักที ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว
ที่นี่นอกจากขนมจีนเค้าก็มีข้าวราดแกงขายด้วย แกงเยอะแยะน่ากินไปหมด
เย้ ใกล้จะถึงคิวแล้ว อ๊อฟมาถึงตอนบ่ายโมง คนมีมาเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะซาเลย
ที่นี่เค้ามีน้ำยา 4 ภาค ไม่ว่าจะน้ำยากะทิ น้ำยาใต้ น้ำยาป่า น้ำยาปลาร้า น้ำเงี๊ยว
แกงไตปลา น้ำยาน้ำพริก มีให้เลือกมากมาย
ยืนรอคิวตั้งนานในที่สุดก็ได้กินแล้ว อ๊อฟสั่งน้ำยาป่าผสมน้ำยาปลาร้า
ไม่ได้เยอะเฉพาะผักนะ เส้นก็เยอะ ลูกชิ้นก็ลูกใหญ่มาก สนนราคาจานนี้ 40 บาทค่ะ
ได้มาก็ไม่รอช้า เด็ดผักใส่จานด่วนๆ ผักเยอะมาก มีไม่ต่ำกว่า 10 ชนิด ผักชี ต้นหอม
ผักชีลาว ขมิ้นขาว ผักกาดดอง มะระ แตงกวา ผักบุ้ง ผักกาดขาว เยอะแยะนับไม่หวาดไม่ไหว
นั่งกินไม่สะใจ ต้องลุกขึ้นยืนไปตักผักที่ชอบ ที่นี่นั่งได้ประมาณสัก 10-20 คนเห็นจะได้
เอาเป็นว่านั่งๆ ยืนๆ ลุกเข้า ลุกออกเป็นเก้าอี้ดนตรีเลย
คือมันน่ากินมาก แต่กินแบบไม่มีความสุขอะ
กดดันเพราะคนยืนรอ จ้องมองตลอดเวลา 555
คนมาที่นี่ส่วนมาก นอกจากมากินตามรีวิวก็มาถ่ายรูปกันด้วยแหละ
เพราะร้านเค้าดัง ใครๆ ก็อยากมา
สรุปเลยละกันว่าถ้าใครชอบทานผัก ทานขนมจีนมาเถอ ะไม่ผิดหวัง ผักแน่นเยอะ
ผักเยอะ ผักสดมาก แต่ต้องเด็ดกินเองนะ เพราะบางอย่างไม่ได้หั่นมาให้
ส่วนเรื่องรสชาติที่ไปชิมมาทั้งหมด 3 น้ำยา
– น้ำยาน้ำพริกหวานมากกกก ไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่
– น้ำยาป่ารสชาติเผ็ดร้อน อร่อยใช้ได้
– น้ำยาปลาร้า หอมนัวปลาร้ามาก โดยรวมก็ถือว่าใช้ได้เลย ไม่ได้มีดีแค่ผักอย่างเดียว 
จริงๆ ถ้าคนไม่เยอะก็จะสั่งอีกหลายน้ำยามากิน เสียดายคนมารอเยอะมาก
สุดท้ายก็ขอแชะรูปกับเจ๊ติ๊กสักหน่อย แกบอกว่า ” มาถ่ายๆ กูชินแล้ว ” 555
คงมีคนมาถ่ายรีวิว มาถ่ายที่ร้านแกเยอะจริงๆ แต่แกพูดจาน่ารักนะ ไม่วีนไม่เหวี่ยง
แม้อากาศจะร้อน คนจะเยอะ แกก็อารมณ์ดีตลอด ใครชอบกินผักไปเถอะ อร่อย
พิกัดบริเวณแถวใต้ต้นโพธิ์ข้างสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ตรงข้ามไปรษณีย์จังหวัดราชบุรี
สวัสดีค่า วันนี้อย่างแรกเลยต้องเล่าก่อนว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาเป็นเดือนที่อ๊อฟต้องออกไปถ่ายงาน outdoor
หลายที่มาก โดนแดดรัวๆ ถึงจะทาครีมกันแดดแต่ก็รู้สึกว่าหน้าคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด แถมพอออกไปข้างนอก
มีเหงื่อเยอะขึ้น พอสิวขึ้นก็มีรอยดำ รอยแดง ฝ้ากระบางๆ ที่เคยมีบ้างก็เข้มขึ้นนิดหน่อย
พอมองหน้าตัวเองทุกวันนี้เห็นเลยว่า ตัวเองรู้สึกโทรมขึ้น
ด้วยความเป็นคนชอบหาข้อมูล ก็พยายามหาว่าอะไรมันน่าจะดี แต่พอหาเรื่องผลิตภัณฑ์
กลุ่มลดรอยดำ whitening จะพบว่ามันมีเยอะมาก วันนี้เลยอยากจะเอาข้อมูลที่ตัวเองหามา
ในช่วงนี้จนเจอผลิตภัณฑ์ที่รู้สึกว่าโอเคมาแบ่งเพื่อนๆ กันค่ะ

เริ่มแรกเลยจากที่อ๊อฟลองหาข้อมูลมา ขอสรุปเป็นข้อๆ เลยนะคะ
ว่าการจะเลือกกลุ่ม whitening ซักตัวเราต้องดูอะไรบ้าง
1. Whitening กับ ผลิตภัณฑ์กลุ่มลดรอยดำเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มเดียวกัน แต่ถ้าจะหวังผลลดรอยดำด้วย
อาจจะต้องหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เข้มข้นและเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพมากกว่าปกติ
เพราะถ้าแค่ whitening บางทีลดเม็ดสีนิดหน่อยก็อาจจะเริ่มๆ ดูสว่างขึ้นได้ แต่ถ้าจัดการจุดด่างดำ
บางทีจะเห็นผลน้อยต้องเลือกตัวที่ส่วนผสมเชื่อถือได้จริงๆ
2. ส่วนผสมกลุ่ม whitening มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มผลัดเซลล์ผิวเช่น AHA
กลุ่มนี้จะไม่ได้ลดเม็ดสีโดยตรงแต่จะผลัดเซลล์ผิวเก่าๆ ออก
กับอีกกลุ่มจะเป็นตัวที่ลดเม็ดสีที่ขนส่งมาสู่ผิวชั้นบนค่ะ
3. ส่วนผสมเครื่องสำอางจริงๆก็คล้ายๆยาแต่กฎเกณฑ์จะน้อยกว่าพูดง่ายๆ คือยาต้องพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง
แต่พวกเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ขอแค่ไม่มีส่วนผสมอันตรายก็จำหน่ายได้
เราต้องเป็นคนเลือกเองว่าจะเลือกโดนตัวที่มีประสิทธิภาพหรือไม่
4. ซึ่งหลักเกณฑ์การดูว่าอะไรมีประสิทธิภาพมั้ยเอาให้ชัวร์สุด คือ ควรมองหาส่วนผสมที่มีงานวิจัย
ทางวิทยาศาสตร์รองรับยิ่งเป็นงานวิจัยที่ได้ตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์หรือวารสารของแพทย์ผิวหนังยิ่งดีค่ะ
เพราะจะช่วยการันตีว่าส่วนผสมนั้นหวังผลได้จริงและการได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ก็จะดีกว่าเป็น
การวิจัยของบริษัทผลิตส่วนผสมเอง จะบอกว่าพอหาข้อมูลได้ประมาณนี้แล้วคือหายากมากกก
กว่าจะเจอตัวที่โอเคจริงๆ เพราะส่วนผสม whitening เนื่องจากมันขายได้ จะมีส่วนผสมเยอะมากเป็นร้อยตัว
แต่ส่วนผสมที่มีหลักฐานยืนยันว่ามีประสิทธิภาพจริงคือมันมีไม่เยอะ ต้องหาดีๆว่ามีใครเอามาใช้บ้าง
แต่พอดีอ๊อฟไปเจอกับตัวนึงน่าสนใจมาก ที่น่าสนใจ คือเค้ารวมเฉพาะส่วนผสมที่มีงานวิจัยจริงๆ
คัดเน้นๆตัวที่ประสิทธิภาพสูงสุด แล้วได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ หรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
พิสูจน์แล้วจริงๆ เอามาใช้แต่คือไม่ได้ใส่แค่ตัวเดียว แต่ใส่มา 6 ส่วนผสม
คือหลายคนอาจจะงงว่าใส่มาทำไมเยอะเเยะ ย้อนกลับไปที่อ๊อฟเล่านะคะว่ากลไกของส่วนผสมพวกนี้
คือลดเม็ดสี แต่การลดเม็ดสีมันเป็นกลไกย่อยๆ
ไอเจ้าผลิตภัณฑ์ตัวนี้เค้าเอา 6 ส่วนผสมมาทำงานร่วมกันทำงานคนละกลไกเลยเสริมกัน
อันนี้อ๊อฟแปะรูปจากทางแบรนด์ไว้นิดนึง คือตัวเองก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด
แต่เข้าใจคร่าวๆว่า มันไปจัดการหลายๆกลไก ที่พิเศษคือ ทุกส่วนผสมมัน prove แล้วตีพิมพ์แล้วจริงๆ ว่าได้ผล
มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ไม่ต้องไปลุ้นเอาเองว่าได้ผลมั้ย ส่วนผสมที่เน้นๆ ว่าพิเศษคือมีหลายตัว
แต่เนื่องจากอ๊อฟไม่ใช่สายส่วนผสมเท่าไหร่ เลยมีตัวที่อ่านๆแล้วรู้สึกดีมากๆอยู่ 3 ตัวค่ะ คือ
1. Butylresorcinol ตัวนี้คือลองเปิดดูงานวิจัยที่เกาหลีกับญี่ปุ่นทำแล้วคือเค้าวิจัยเรื่องฝ้าที่ปกติจางยากมาก
แล้วคือมันจางลงดีมาก ส่วนผสมนี้เลยเหมือนเป็นพระเอก เลยโดยเฉพาะรอยดำที่จางยากๆ
2. PKEK peptide อันนี้คือ กลไกมันน่าสนใจมากโดยเฉพาะคนที่มีสิว รอยดำสิว คือปกติ เวลาสิวหรือการอักเสบ
มันจะไปกระตุ้นรอยดำ แล้ว whitening มันจะไปกดเม็ดสีที่สร้างมาแล้ว แต่สารตัวนี้มันไปยับยั้งตั้งแต่เกิดการ
อักเสบ ลดการกระตุ้นรอยดำตั้งแต่ต้น ทำให้หลังเกิดสิวโอกาสเกิดรอยดำน้อยลงและลดรอยแดงได้ด้วย
3. ตัวสุดท้ายที่ไม่พูดไม่ได้คือ Sepiwhite จริงๆสารตัวนี่มีการใช้ใน SK-II มาซักพักแล้ว แต่การใช้กับพวกสาร
ตัวอื่นๆ หลายตัวยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ความพิเศษคือ กลไกมันจะไปยับยั้งในระดับแรกเริ่มมากกว่า
ส่วนผสมตัวอื่นๆ ผลลัพธ์ด้าน whitening มีการวัดเทียบกับพวก arbutin kojic ซึ่งเป็นสาร whitening ตัวเก่าๆ
แล้วเหนือกว่า ที่ทำให้อ๊อฟสนใจคือ มีงานวิจัยช่วยลดกระแดด ซึ่งปกติกระแดดเอาจริงๆทาครีมยังไง
ก็ไม่จางแต่ sepiwhite เป็นตัวเดียวเลยที่มีงานวิจัยเรื่องนี้
สำหรับส่วนผสมอื่นๆอีก 3 ตัว คือเป็นส่วนผสมที่ดีทุกตัว โดยรวมคือทำงานส่งเสริมกัน
ทำให้การลดจุดด่างดำทำได้ดีขึ้น และช่วยเรื่องความกระจ่างใสโดยรวมด้วย
 และเทคโนโลยีพิเศษอีกตัวที่เค้าใช้คือ Cationic Targeting Technology คือ เทคโนโลยีที่เพิ่มความสามารถ
ในการออกฤทธิ์ของส่วนผสมช่วยจัดการจุดด่างดำให้ล้ำลึกยิ่งขึ้นด้วยการใช้ไลโปโซมประจุบวกที่สามารถ
ซึมซาบสู่เซลล์ผิวที่มีประจุลบได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ส่วนผสมตรงเข้าสู่เป้าหมายและปลดปล่อยส่วนผสม
ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างล้ำลึกและตรงจุด
แพคเกจจิ้งเป็นขวดปั๊มแบบสุญญากาศสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน
ทำให้เราสามารถควบคุมปริมาณของเซรั่มได้
(GENWHITE 30 ML 1,290 บาท)
ตัวเนื้อเซรั่มเป็นสีขาวขุ่น ค่อนข้างเข้มข้น ซึมไวและไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
มีกลิ่นของผลิตภัณฑ์อ่อนๆ คาดว่าน่าจะเป็นจากส่วนผสม คนที่กลัวแพ้สบายใจได้เลย
เพราะปราศจากนํ้าหอม พาราเบน และสารก่อความระคายเคืองให้กับผิว
วิธีใช้  ตัวนี้ใช้ทาเป็นตัวแรกหลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จ (เช้า – เย็น)
ทาให้ทั่วใบหน้าหลังจากนั้นก็ทาครีมบำรุงตัวต่อไปได้เลยค่ะ
มาดูสภาพผิวหน้าของอ๊อฟกันก่อนเนอะ อ๊อฟเป็นคนที่มีผิวหน้าค่อนข้างแห้ง ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น
ถ้าเลือกครีมบำรุงไม่ดีหรือสกินแคร์ที่มีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้ง่าย
ส่วนตัวอ๊อฟไม่ค่อยเป็นสิวเท่าไหร่ จะเป็นก็ช่วงวันนั้นของเดือน ปัญหาที่เห็นชัดที่สุดคือ รูขุมขนกว้าง
รอยกระจุดเล็กๆ บริเวณแก้มและรอยแดงของสิวที่ทิ้งรอยไว้หลังจากหมดประจำเดือน
หลังจากการทดลองใช้มาเป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม จะเห็นว่าพวกรอยกระและรอยดำรอยแดงจากสิว
ดูจางลง สีผิวดูสม่ำเสมอและแข็งแรงมากขึ้น ที่สำคัญรูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วยแหละ
ซึ่งคือจากรูปอ๊อฟดูเองแล้วยังรู้สึกแบบชอบผิวตัวเองมาก มันดูสว่างๆ กระจ่างใสขึ้น
แล้วถ้าซูมดูคือจุดด่างดำมันจางลงไปเยอะมาก จนรู้สึกว่าอ๊อฟจะขาดเจ้าตัวนี้ไม่ได้แน่ๆ
อีกเรื่องที่เห็นได้ชัดนอกจากความกระจ่างใสและจุดด่างดำ คือ รู้สึกผิวดีขึ้นมาก คือมันเนียนขึ้น
รูขุมขนเล็กลง หน้าดูเนียนๆ เหมือนมันดูดีขึ้นแบบบอกไม่ถูก 555

สรุปเลยละกัน สำหรับอ๊อฟอาจจะไม่ได้เก่งในเรื่องของการวิเคราะห์ส่วนผสม แต่หลังจากที่ได้ทดลองใช้
เจ้าตัว KENE GENWHITE ถือว่าเป็นเซรั่มที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยดำรอยแดงจากสิว
ที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนเมื่อใช้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จุดแข็งที่เด่นมากๆ คือ การใช้ส่วนผสมที่คัดมาแล้วจริงๆ
ทุกตัวคือมี paper ยืนยันหมด ไม่แปลกใจที่ผลลัพธ์มันดีมาก คือรู้สึกจริงๆ ว่าจุดด่างดำมันหาย
เทียบจากรูปคือเห็นชัด ไม่ได้คิดไปเองตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากทำหน้าที่ในเรื่องลดเลือนจุดด่างดำได้ดีแล้ว
ผลพลอยได้จากการใช้เซรั่มยังทำให้ผิวหน้าแข็งแรงดูใสขึ้นอีกด้วยเพราะเค้ามีส่วนผสมของสารบำรุงฟื้นฟู
ผิวอีกเยอะมาก ที่อ๊อฟไม่ได้พูดถึงเช่นพวก ceramide, anti-oxidant ยังไงอ๊อฟว่าถ้าใครมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ
จุดด่างดำ แล้วหนักใจมากใช้อะไรก็ไม่ดี  อ๊อฟว่าตัวนี้เป็น the must have
ต้องลองดูจริงๆ ลองดูนะคะ แต่อ๊อฟว่ามันเวิร์ค
ติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตามด้านล่างเลยค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการทำรีวิวรวบรวมของดีของเด็ดมานาน ตอนนี้อ๊อฟกลับมาแล้วววว
กลับมาพร้อมกับการรวบรวมสครับผิวหน้าและผิวกายที่มีมากถึง 20 ยี่ห้อ ที่ใช้แล้วผิวเนียนสว่างกระจ่างใส
ซึ่งแต่ละตัวนั้นอ๊อฟใช้มาตลอด อย่างผิวกายอ๊อฟสครับอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ส่วนผิวหน้าบางครั้งก็สครับวันเว้นวัน
ต้องบอกก่อนเลยว่าอ๊อฟไม่ใช่คนผิวขาว เป็นผู้หญิงผิวสองสีจะมาให้ขัดแล้วเปลี่ยนเป็นผิวขาวเลยคงไม่ได้
แต่ผลลัพธ์ที่อ๊อฟใช้เป็นประจำคือ ผิวสว่างขึ้น ใสขึ้น เนียนนุ่มขึ้น พวกข้อศอก ตาตุ่ม หัวเข่าที่หยาบกร้าน
สีคล้ำๆ ก็ดูสว่างขึ้นทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทาครีมกันแดด โลชั่นบำรุงผิวและหลีกเลี่ยงแสงแดดอยู่เสมอด้วยนะคะ
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปดูสครับหมวดผิวหน้ากันเลยค่า

เริ่มกันที่สครับผิวหน้า มาส์กมะขามเขาค้อทะเลภู X คุณแม่สายป่าน Beauty Blogger ตัวแม่ของวงการ
เป็นมาส์กมะขามที่ดีจริง ดีแบบไม่พูดเยอะ เจ็บคอ เด็ดตรงใช้เนื้อมะขามสดแท้ๆ ไม่ใช่แค่สารสกัด
พกพาง่ายสะดวกสบาย ราคาน่ารัก เนื้อมาส์กมะขามเนียนนุ่มไม่ต้องมาผสมน้ำ สครับเบาๆ ให้ทั่วหน้า
ทิ้งไว้สัก 15-20 นาทีแล้วล้างออก คุณเอ๊ยยยย ผิวสว่างขึ้นเลย แถมลูบผิวแล้วยังเนียนนุ่มมากอีกด้วย
อ๊อฟมาส์กที่เดียวหมดเลยพอกหนาๆ ไม่เก็บไว้ค้างคืนเพราะต้องการความสดใหม่ของมาส์ก
ราคา 25 บาท ซื้อที่ WATSONS ให้ 10/10 คะแนน

มาต่อตัวที่สอง St. Ives แบรนด์สครับผิวอันดับ 1 จากอเมริกา เป็นสครับผิวที่มีความหอมมากกกก
คืออ๊อฟชอบสูตรนี้เป็นพิเศษ เวลาหน้าหมองคล้ำมาใช้ตัวนี้ผิวสว่างขึ้นใสขึ้นเลยสำหรับสูตร Radiant Skin
Pink Lemon & Mandarin Orange Scrub สครับพิงค์เลม่อนและส้มแมนดาริน เนื้อสครับเนียนละเอียด
ไม่บาดผิวเลยสครับช่วงจมูกกำจัดสิวเสี้ยนได้ดีมาก แถมสครับทั่วหน้ายังไม่ระคายเคืองเลย จริงๆ ใช้ได้ทั้ง
ผิวหน้าและผิวกายแต่อ๊อฟงกเลยใช้แค่ผิวหน้าพอ ไม่งั้นหลอดเดียวไม่พอแน่ๆ 555 นอกจากเนื้อสครับ
จะเนียนละเอียดแล้วยังหอมกลิ่นแบบฟรุตตี้ให้ความสดชื่นได้ดี ล้างเสร็จผิวเนียนนุ่ม กลิ่นหอมติดผิวเว่อร์
หักตรงล้างตัวสครับยากไปนิดเหมือนล้างแล้วแต่เม็ดสครับยังหลงเหลือติดหน้าอยู่
ราคา 299 บาท ซื้อได้ที่ Watsons ให้ 9/10 คะแนน

ถัดมาเป็น BK Jelly Ball Clearly Brightening Gentle Scrub สครับเจลจากพืชธรรมชาติ 100%
อุดมด้วยด้วยสารบำรุงผิวจากพืช 6 ชนิด ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำและเสื่อมสภาพให้หลุดออก
เป็นสครับเนื้อเจลที่เนื้อเนียนละเอียดมาก ย้ำว่าเนียนมากจริงๆ สครับหน้าแล้วไม่ระคายเคืองไม่บาดผิว
แม้แต่นิดเดียวเรื่องความขาวใสอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจน แต่เรื่องความชุ่มชื่นและปลอบประโลมผิว
อ๊อฟว่าทำได้ดีมาก สครับแล้วรู้สึกสะอาดสบายผิว ล้างออกผิวก็ไม่แห้งตึงอีกด้วย
ราคา 239 บาท ซื้อได้ที่ Shopee ให้ 8/10 คะแนน
มาถึงของดีของไทย ครีมมาส์กมะขามผสมกาแฟตราแม่แสงดี ยี่ห้อเดียวกับที่อ๊อฟใช้ขัดตัวแต่ตัวนี้เพิ่มกาแฟ
เข้ามาผสมกับมะขาม เนื้อมาส์กมะขามจะเป็นมาส์กแน่นๆ ต้องนำมาผสมน้ำหรือใช้ขณะที่หน้าเปียก
ถึงจะนวดสครับผิวได้ แอบชอบตัวมาส์กของเขาค้อภูทะเลมากกว่าเพราะใช้งานง่ายนวดสครับได้เลย
ไม่ต้องมาผสมน้ำ มาส์กเสร็จแล้วล้างออกจะสัมผัสได้ว่าหน้าเรียบเนียนขึ้น ผิวสว่างและใสขึ้น
โดยรวมก็ถือว่าเป็นของถูกและดีที่มีไว้ก็ไม่เสียหาย
ราคา 45 บาท ซื้อที่ Shopee ให้ 7/10 คะแนน
GARNIER Light Complete White Speed brightening scrub ตัวนี้เป็นโฟมสครับที่มีเม็ดบีดส์ขนาดเล็ก
ใช้ได้ทุกวัน ไม่บาดผิวไม่ระคายเคือง ช่วยทำความสะอาดผิว ขจัดความหมองคล้ำ เนื้อโฟมเนียนนุ่ม
แต่ฟองค่อนข้างเยอะ ใช้แล้วหน้าดูสะอาดใสขึ้นดี แต่หลังล้างอ๊อฟยังรู้สึกว่ามันแห้งและตึงที่ผิวไปนิดนึง
ราคา 99 บาท ซื้อที่ 7/11 ให้ 7/10 คะแนน
Neutrogena deep clean blackhead eliminating daily scrub โฟมล้างหน้าสครับที่มีทั้งเม็ดบีดส์เล็ก
และใหญ่ปนกันไป แต่สครับแล้วก็ไม่ได้บาดผิว เป็นโฟมสครับที่ใช้แล้วรู้สึกหน้าสะอาดดี
ล้างออกแล้วก็ยังคงความชุ่มชื่นของผิวไว้อยู่ หน้าไม่แห้งตึง ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ว๊าวอะไร
ราคา  169 บาท ซื้อที่ Lotus ให้ 7/10 คะแนน 
SCENTIO COCONUT & Co-Q10 Facial Scrub จาก Beauty Buffet มาส์กหน้าน้ำมันมะพร้าวบำรุงผิว
เป็นมาส์กหน้าเนื้อครีมเข้มข้นที่มีเม็ดสครับละเอียดมาก มองแทบไม่เห็นเลย สครับแล้วไม่บาดผิว
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นวดๆ วนๆ แล้วล้างออกผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น ผิวไม่แห้งตึงดี
ราคา 200 บาท ร้าน Beauty Buffet ทุกสาขา ให้ 7/10 คะแนน
มาต่อที่สครับผิวกายตัวดัง Sugar Gluta Tamarind AHA Brightening Scrub หรือสครับมะขาม
จาก EVEANDBOY เป็นสครับผิวกายที่เนื้อค่อนข้างเหลวแต่มีความดีงามมว๊าก เม็ดสครับเป็นน้ำตาล
ละเอียดไม่บาดผิวเลย ขัดตัวเพลินเชียวแหละ พอใช้น้ำล้างจะมีฟองเหมือนใช้ครีมอาบน้ำไปอีก
หลังล้างออก ผิวเนียนนุ่มเว่อร์ ถ้าช่วงไหนที่ไปโดนแดดบ่อยๆ กลับมาขัดตัวนี้ผิวสว่างใสขึ้นเลย
ราคา 99 บาท หาซื้อได้ที่ EVEANDBOY ตัวนี้ให้ 10/10
ตัวต่อมาเป็นสครับตัวที่ภูมิใจนำเสนอมาก คิดว่าหลายคนน่าจะรู้จัก นั่นคือ ครีมมะขามพะเยา ตราแม่แสงดี นั่นเอง
โด่งดังมายาวนาน ทุกวันนี้อ๊อฟก็ยังใช้อยู่ เห็นกระปุกใหญ่ๆ แบบนี้ก็ใกล้จะหมดแล้ว มันดีมากจริงๆ แต่ก่อนต้อง
มานั่งเอามะขามเปียกมาผสมกับขมิ้น ไพร นมสด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องวุ่นวาย กระปุกนี้จบ รวมเอามะขาม ขมิ้น  ว่าน
หางจระเข้ น้ำผึ้ง นมสด ผสมมาให้แล้วเสร็จสรรพขัดผิวได้เลย ตัวนี้ไม่มีเม็ดสครับ เป็นเนื้อมะขามเนียนๆ
ขัดๆ พอกๆ ตอนตัวเปียกหรือผสมน้ำเล็กน้อย ไม่แสบผิวยิบๆ ล้างออกแล้วผิวเนียนนุ่มจริงๆ
ยิ่งขัดเป็นประจำ ผิวสว่างขึ้นด้วย หักคะแนนตรงขัดแล้วพื้นจะเลอะเทอะไปหน่อย
ราคา 300 บาท หาซื้อได้ในอินเตอร์เนต search ครีมมะขามพะเยา ได้เลย ให้ 9/10 คะแนน
Soap & Glory Breakfast Scrub ซื้อมาตอนที่ Boots เค้ามีโปร 1 แถม 1 เป็นสครับที่มีส่วนผสมของ
oat, shea butter & sugar body smoother, Golden Sugar, Natural Organic Cupuacu bio Scrubs
,Banana, Almond and Honey extracts  เป็นสครับที่มีกลิ่นหวานหอมของกาแฟมาก ตัวนี้เด่นในเรื่อง
ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เม็ดสครับเป็นน้ำตาลและมีอัลมอนด์บด เม็ดสครับใหญ่กว่า Flake away แต่เล็กกว่า Sugar
crush ไม่บาดผิว เม็ดสครับกำลังดี ขัดแล้วผิวเนียนนุ่มเว่อร์ เรื่องความขาวใสเฉยๆ
ให้คะแนนเรื่องความหอมและความเนียนนุ่มของผิวมากกว่า
ราคา 370 บาท จำไม่แม่นเพราะซื้อนานมาก หาซื้อได้ที่ Boots
แนะนำซื้อตอนโปร 1 แถม 1 เท่านั้นถึงจะคุ้มให้ 8/10 คะแนน

YOKO SPA MILK SALT เกลือสปาขัดผิวที่หาซื้อง่ายมาก เดินเข้า 7/11 มีแน่นอน เป็นเกลือสปาขัดผิวที่ถูกและดี
อีกหนึ่งยี่ห้อ ใครที่เริ่มมองหาสครับขัดผิว เชื่อว่าต้องเคยลองยี่ห้อนี้แน่นอน แต่ แต่ แต่ ตัวเกลือสปาขัดผิว
ค่อนข้างหยาบ ดังนั้นควรขัดผิวด้วยความเบามือ ไม่งั้นแข้งขาอาจจะแหกหรือถลอกได้  ความดีงามอีกอย่าง
คือ กลิ่นโคตรหอม หอมแบบนมเลย หอมอร่อยน่ากิน ตัวนี้ขัดแล้วผิวเนียน ผิวสะอาดดี รู้สึกว่าขี้ไคลออกกระจุย
กระจาย พอล้างออกผิวเนียนนุ่มไปอีก ราคาแบบขัดทิ้งขว้างได้โดยไม่ต้องเสียดาย
ราคา 32 บาท ซื้อได้ที่ 7/11 ทุกสาขา ให้ 8/10 คะแนน

ผงขัดผิวธันยพรสมุนไพร ตัวนี้เป็นผงขัดผิวที่มีส่วนผสมของสมุนไพรไทยต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นขมิ้น ไพร เกลือ
ว่านนางคำหรือพิมเสน เป็นผงสมุนไพรที่ต้องเอามาผสมน้ำหรือนมสดแล้วจึงค่อยมาขัดผิว อารมณ์เหมือนคนสมัย
ก่อนขัดผิวด้วยขมิ้น สีก็จะเหลืองๆ แต่ก็ไม่ได้ล้างออกแล้วเหลืองเหมือนคนเป็นดีซ่านนะ เหลืองติดมือติดซอกเล็บ
บ้างเล็กน้อย เอาเป็นว่าเหมาะกับคนที่ชอบนำส่วนผสมอื่นมามิกซ์ใส่ ไม่ว่าจะเป็นเบคกิ้งโซดา หรือเกลือขัดผิว
 ล้างออกแล้วผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใสดี
ราคา 65 บาท ซื้อได้ใน Shopee ให้ 6/10 คะแนน
Beauty Cuisine Milk Salt Scrub จาก Beauty Market เป็นสครับเกลือสูตรพิเศษที่เป็นเนื้อครีม
สครับเม็ดไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่ละเอียดเหมือนแบรนด์อื่นๆ ต้องขัดเบาๆ ถึงจะไม่บาดผิว
สครับแล้วหอมกลิ่นนมเว่อร์ ล้างออกแล้วผิวเนียนเด้งดี
ราคา 149 บาท หาซื้อได้ที่ Beauty Market Shop ให้ 7/10 คะแนน
OAB’S SOAP สบู่กาแฟของคุณแม่โอป รักอยิมกะอยัมก็ต้องอุดหนุนคุณแม่โอปด้วย ซื้อเพราะความรักล้วนๆ ฮ่าๆ
เป็นสบู่สครับกาแฟที่มีแพคเกจจิ้งสวยเก๋มาก มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยส่วนผสมดีๆ เต็มไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน B และ E เข้มข้น Shea Butter และสารต้านอนุมูลอิสระ มาพร้อมตาข่ายตีฟอง
มีกลิ่นหอมกาแฟมว๊าก ในเนื้อสบู่จะมีกากกาแฟเป็นเกล็ดละเอียดๆ ขัดแล้วไม่บาดผิวแน่นอน จะใส่ตาข่ายตี
ฟองหรือเอาออกมาขัดผิวเปล่าๆ ก็ได้ หลังลองใช้ครั้งแรก เอาจริงๆ นะใช้ขัดพวกขี้ไคลและขจัดผิวหยาบกร้าน
ได้ดีมาก ผิวกระจ่างใสขึ้นในครั้งแรกจริงๆ ยิ่งตามพวกข้อศอก ตาตุ่ม หัวเข่าจะเห็นชัดมากว่ากระจ่างใสขึ้น
ราคา 190 บาท ซื้อใน Shopee ตอนลดราคา ให้ 10/10 คะแนน

YOKO COFFEE SALT SCRUB SHOWER BATH เกลือสปาขัดผิวสูตรกาแฟ ซื้อมาตอนเวป Konvy มีโปร 1 แถม 1
เป็นเกลือสปาขัดผิวค่อนข้างหยาบ อย่าขัดแรงไม่งั้นจะแสบผิวได้ ขนาดแค่ขัดๆ ถูๆ แปปเดียวผิวยังแดงเลย
เหมาะเอาไว้ขัดตรงต้นขาที่มีเซลลูไลท์ ต้องอาศัยความสม่ำเสมอขัดบ่อยๆ น่าจะช่วยให้เซลลูไลท์จางลงได้
ราคา 99 บาท ซื้อ 1 แถม 1 ที่เวป Konvy ให้ 6/10 คะแนน
SCENTIO Sofe & Smooth Riceberry Cream จาก Beauty Buffet เป็นสครับผิวที่มีเนื้อสครับเนียน
ละเอียดมาก เม็ดสครับมีทั้งเล็กใหญ่ผสมกัน แต่ขัดแล้วไม่รู้สึกระคายเคืองหรือบาดผิวเลย
ยิ่งกลิ่นนะหอมสุดๆ หอมกลิ่นน้ำนมข้าว กลิ่นข้าวไรซ์เบอรี่อะไรทำนองนี้  สครับเสร็จแล้วล้างออก
ผิวเนียนนุ่ม กลิ่นหอมติดผิว เหมาะกับใช้สครับและบำรุงผิวไปในตัว
ราคา 147 บาท ซื้อจากเวป Konvy ให้ 8/10 คะแนน

Beauty Buffet Scentio Daily Delicious Tomato Jam Scrub & Wash แยมสครับผิวที่มีเม็ดสครับของเบอรี่
ตัวนี้เป็นสครับที่ใช้ทั้งสครับและเป็น Body wash ไปในตัว รู้สึกกลิ่นมันออกเป็นครีมอาบน้ำมากกว่า
ไปทางสครับผิว เนื้อสครับละเอียด พอล้างน้ำออกจะมีฟองเล็กน้อย ล้างแล้วรู้สึกผิวสะอาดดี
แต่ไม่ประทับใจซักเท่าไหร่ชอบสูตรข้างบนมากกว่า
ราคา 147 บาท ซื้อจากเวป Konvy ให้ 5/10 คะแนน

Lalil Tightening & Reactivating Coffee Body Scrub สครับขัดผิวจากเมล็ดกาแฟและเกลือธรรมชาติ
เป็นสครับที่เม็ดสครับเยอะสะใจมาก เนื้อสครับเข้มข้น เม็ดสครับมีทั้งเล็กและใหญ่ สำหรับขัดตัว
อ๊อฟว่าไม่บาดผิวและไม่ระคายเคืองผิวนะ ขัดตัวกำลังดี กลิ่นกาแฟหอมแรงมาก สครับแล้วขัดพวกเซลล์ผิว
เก่าๆ ได้ดี ชอบตรงปราศจากซิลิโคน พาราเบน และ SLS/SLES ล้างออกแล้วผิวเนียนสะอาดดี
ราคา 490 บาท ซื้อจากเวป Konvy ให้ 8/10 คะแนน

Watsons Cream Body Scrub Almond & Shea Butter Scented ครีมสครับผิวกายที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์
ออยล์,เชียร์ บัตเตอร์และเม็ดสครับจากธรรมชาติ เม็ดสครับขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่และไม่ได้มีเยอะมาก
ขัดแล้วไม่บาดผิว เนื้อครีมสครับหอมและนุ่มมาก ขัดแล้วรู้สึกผิวเนียนนุ่มดี ล้างออกก็ไม่แห้งตึง
ให้ความรู้สึกเหมือนอาบน้ำเสร็จแล้วทาโลชั่นเคลือบผิวอยู่ ส่วนเรื่องความขาวใสยังไม่ค่อยเห็นผล
ราคา 99 บาท ซื้อได้ที่ watsons ให้ 7/10 คะแนน

สุดท้ายท้ายสุด Mivagirl Nanako’s Farm Volcanic Mud Salt Scrub เกลือขัดผิวสูตรถ่านภูเขาไฟญี่ปุ่น
เป็นเกลือขัดผิวที่มีความหยาบเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีสีดำของถ่านชาร์โคล อารมณ์คล้ายๆ กับเกลือสปาขัดผิว
ของยี่ห้อ YOKO เลย แต่ตัวนี้มีสารสกัดจากธรรมชาติ ได้แก่ โคลนภูเขาไฟ ถ่านชาร์โคล กลูต้าไธโอน อาร์บูติน
วิตามินซี น้ำมันดอกซึบากิ และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ขัดแล้วผิวเรียบเนียนชุ่มชื่นดี
ราคา 27 บาท ซื้อที่เวป Konvys ให้ 7/10 คะแนน

เป็นยังไงคะ สครับผิวหน้าและผิวกายที่อ๊อฟรวบรวมเอามาฝาก หากถูกใจก็กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจ
กันด้วยนะคะ รีวิวหน้าจะเป็นอะไร รับรองว่าอัดแน่นจัดเต็มตามสไตล์ iloveaday แน่นอน
สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟจะมาแชร์ประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและร่องแก้ม
ครั้งแรกในชีวิตกับทาง P10 Clinic ซึ่งสาขาที่อ๊อฟเข้ามารับบริการคือที่ เมเจอร์ รัชโยธิน ชั้น 3 ค่ะ
และฟิลเลอร์ที่คุณหมอเลือกใช้เป็นของ COLORFUL FILLER นวัตกรรมจากสวิสเซอร์แลนด์
ภายใต้แบรนด์ Merz Aesthetics ปลอดภัย ผ่านอย. ของแท้ 100%ช่วย
เติมเต็มร่องใต้ตาให้เต็ม เพื่อใบหน้าดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า และทำให้ใบหน้าดูเด็กลง
Colorful Filler คือสารเติมเต็มในชั้นผิวหนัง หรือใต้ผิวหนัง ที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูรอนิค แอซิด
(Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นองค์ประกอบธรรมชาติ ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ
ได้ดีมากถึง 1,000 เท่า มีส่วนสำคัญในการมอบความชุ่มชื้นให้ เซลล์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนดูเต่งตึง ขณะเดียวกัน
ความร่วงโรยจากอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ HA เสื่อมถอยลง1 ฟิลเลอร์ ของ COLORFUL FILLER จึงถูกคิดค้นมาเพื่อทำ
การทดแทนหรือเสริม HA ในผิว เติมเต็มวอลุ่มสู่ใบหน้า เพิ่มความ กระชับและปรับความเรียบเนียนของผิว นอก
จากนี้ COLORFUL FILLER ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นสู่ผิวและชะลอริ้ว รอยที่อาจก่อตัวขึ้นในอนาคตด้วย
ก่อนทำจะเห็นว่าใต้ตาอ๊อฟลึกมาก ถึงแม้จะนอนเยอะแค่ไหนก็ดูเหมือนคนอดหลับอดนอนดูไม่สดใสเลย
ก่อนจะทำการฉีดฟิลเลอร์ก็ต้องทำความสะอาดใบหน้าและแปะยาชาทิ้งไว้ 45 นาที
ระหว่างแปะยาชาก็ออกไปหาข้าวทานรอได้เลยค่ะ
ซึ่งทั้งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและร่องแก้มจะใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะ P10 Clinic เท่านั้น
และมั่นใจได้เลยไม่มีทางเข้าเส้นเลือดแน่นอนเพราะใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Canula) ค่ะ

หลังฉีดเสร็จจะเห็นว่าใต้ตาเต็มขึ้น ฟูขึ้นมาเลย พอฉีดเสร็จคุณหมอก็จะทำการนวดคลึงเล็กน้อย

ต่อมาก็จะทำการฉีดร่องแก้ม ซึ่งร่องแก้มก็เจ็บมากเช่นกัน แต่ก็เจ็บแบบทนได้เพื่อความสวยของเรา

หลังฉีดเสร็จจะเห็นว่าใต้ตาและร่องแก้มตื้นขึ้นเยอะมาก ใบหน้าดูอิ่มและสดใสขึ้นจริงๆ
หลังฉีดครบ 2 เดือนจะเห็นว่าใต้ตาไม่ลึกแล้ว ทานน้ำเยอะๆ ก็จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้นและอยู่กับเราไปนานๆ
ส่วนร่องแก้มอ๊อฟว่าอาจจะต้องเติมอีกเพราะยังมีริ้วรอยที่ชัดอยู่ ยังไงอ๊อฟจะมาอัปเดตเรื่อยๆ เนอะ
สำหรับคนที่สนใจลองสอบถามข้อมูลรายละเอียดกับทาง P10 Clinic ได้เลยค่ะ

‼️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม‼️
☎️ Tel : 081-755-3132
📲Facebook: p10 clinic
https://m.facebook.com/p10clinic/
📲Line: p10 clinic
https://line.me/R/ti/p/%40p10clinic
📲Ig: @p10 clinic
📍 เปิดทำการ : ทุกวัน
🏥ตำแหน่งที่ตั้ง : เมเจอร์รัชโยธิน ชั้น 3
🚖ที่จอดรถสะดวกสบาย

สวัสดีค่ะ เมื่อเดือนที่แล้วอ๊อฟได้ไปทำโปรแกรมยกกระชับใบหน้ากับทาง The Klinique มาค่ะ
เห็นหน้าอ๊อฟเล็กๆ แบบนี้ แต่ก็มีที่ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ต้องแต่งรูปอยู่ตลอดเวลา

วันนี้อ๊อฟเลยได้มาปรึกษาปัญหาผิวหน้ากับคุณหมอที่เดอะคลีนิกค์
ซึ่งคุณหมอได้แนะนำให้อ๊อฟทำโปรแกรม Thermage CPT นวัตกรรมยกกระชับผิวหน้า
พร้อมกับสลายไขมันใต้ผิวทำให้หน้าเรียวเล็กและกระชับได้ในครั้งเดียวเลย
นอกจากนี้เทอร์มาจที่เดอะคลีนิกขค์ยังได้รับรองมาตรฐาน US FDA จากอเมริกาด้วยนะคะ
ขั้นตอนจะเป็นยังไง ตามอ๊อฟไปดูเลยค่ะ
สาขาที่อ๊อฟไปทำอยู่ที่ Siamsquare One ชั้น 6 ค่ะ

ขั้นตอนแรกก็ต้องทำความสะอาด คลีนหน้าให้เรียบร้อยก่อนนะคะ

หลังจากนั้นก็แปะยาชาทิ้งไว้ 45 นาทีค่ะ เพื่อช่วยให้ผิวเราผ่อนคลายมากขึ้นขณะทำ

New Thermage CPT เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ผิวหนังหนึ่งเดียวที่ใช้พลังงานความถี่
คลื่นวิทยุขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency energy: RF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์
ที่สามารถปล่อยพลังงานความร้อนที่มีระเบียบลงไปได้ลึกถึงผิวหนังชั้นในหรือหนังแท้ (dermis)
และเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิว(subcutaneous tissue) ช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่เครื่องมืออื่นๆ นั้นอาจให้การรักษาได้เพียงผิวหนังชั้นบน (superficial skin layers) เท่านั้น

นอกจากจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวยกกระชับยังช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เช่น แก้มและเหนียง
ทำให้ได้รูปหน้าที่เรียวเล็ก ทั้งกระตุ้นคอลลาเจนให้โครงสร้างผิวสมบูรณ์ขึ้นและลดไขมันใต้ผิว
จะเกิดขึ้นพร้อมกันด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ได้ในทันทีและต่อเนื่องยาวนานถึง 1-2 ปี
โดยที่ไม่ต้องพักฟื้นเลย ทำเสร็จก็แต่งหน้าไปทำงานได้เลย ไม่มีใครจับได้ว่าแอบไปทำอะไรมา
แต่ดูใบหน้าสวยได้รูป เรียวกระชับขึ้นสวยแบบไม่โป๊ะแน่นอน

ของอ๊อฟคุณหมอจะเน้นช่วงแก้มและกรอบหน้าที่มีปัญหาอยู่เป็นพิเศษ
ดังนั้นแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันในการใช้จำนวนช็อตและบริเวณที่ต้องแก้ไข
ซึ่งคุณหมอที่เดอะคลีนิกค์ก็จะเป็นคนวิเคราะห์และออกแบบการรักษาให้เรานะคะ

นอกจากนี้หัว Tip ใหม่ของ New Thermage CPT ยังได้ถูกพัฒนาให้สามารถปล่อยพลังงานความร้อน
ได้มากขึ้นถึง 2 เท่า ส่งผลให้ประสิทธิภาพของการกระตุ้นการหดตัวของเส้นใย Collagen และ Elastin
ดีขึ้นมากกว่าเดิม และยังพัฒนาให้การส่งผ่านความร้อนลงไปใต้ผิวได้ลึกกว่าเดิมถึง 2 เท่าด้วย
 นับเป็นการกระชับผิวในระดับลึกที่สุด จึงทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และคงประสิทธิภาพยาวนานยิ่งขึ้น

นอกจากคุณหมอจะเน้นย้ำตรงแก้มที่เป็นปัญหาของอ๊อฟอย่างที่บอกไปแล้ว
ยังทำไล่มาถึงใต้คาง เหนียงและแนวกรอบหน้ารวมถึงใต้กรามด้วย ช่วยเน้นให้เห็นขอบหน้าเรียวชัดได้มากขึ้น

มาถึงคำถามที่หลายๆ คนอยากรู้และรอคอย ว่า ทำแล้วเจ็บมั้ย บอกเลยว่าไม่เจ็บนะคะ
แต่มันเป็นความรู้สึกแบบจี๊ด ๆ ร้อน ๆ แต่มันไม่ได้เจ็บจนถึงต้องกรีดร้อง จิกเตียง แค่นอนเพลินๆ มันจะมีสเปรย์
เย็นๆ พ่นไปที่ผิวก่อนการปล่อยพลังงาน ซึ่งคุณหมอบอกว่ามันเป็นระบบ Thermahe Cool ส่วนตรงที่จี๊ดกว่า
จุดอื่นๆสำหรับอ๊อฟจะเป็นแนวกรามหรือพื้นที่ที่เนื้อน้อยๆ มันจะรู้สึกร้อนจี๊ดมากกว่าส่วนอื่น
แต่พอหลังยิงเสร็จก็หายไม่ได้ปวดหรือแสบแดงอะไร เอาเป็นว่าผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าจนสามารถทนได้สบาย 555

รูปนี้ทำเทอร์มาจเสร็จแค่ครึ่งหน้าเองนะคะ หน้าดูเรียวกระชับขึ้นเลยนะ ร่องแก้มก็ดูตื้นขึ้นด้วย

หลังทำเสร็จทั้งสองข้าง จะเห็นว่าใบหน้าเล็กและเรียวกระชับขึ้น
ที่สำคัญแก้มที่หย่อนๆ ห้อยๆ ก็ยกขึ้นทันทีเลย คุณหมอบอกว่าจะได้ผลเต็มที่ภายใน 3 เดือน
แล้วก็จะสวยต่อเนื่องยาวไปเป็นปีเลย

วันรุ่งขึ้นหลังทำก็ไม่มีการบวมหรแดงหรือการเบิร์นของผิวเลย สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
ของอ๊อฟเน้นการทาครีมบำรุงและมาส์กหน้าให้ความชุ่มชื่นกับผิวอยู่ที่บ้านแล้วค่อยไปทำทรีตเม้นต์บำรุงผิว

หลังทำได้ประมาณ 1 เดือน อ๊อฟก็ไปตัดผมสั้น ตอนที่ยังไม่ได้ทำเทอร์มาจก็กังวลว่าตัดผมมาแล้วหน้าจะบวม
จะบาน แต่ไม่เลยค่ะ หลังได้ทำเทอร์มาจที่ THE KLINIQUE มาแม้จะตัดผมสั้นหน้าก็ยังดูเรียวและเล็กเว่อร์
แก้มห้อยๆ ก็ไม่มีเลยถ้าครบ 3 เดือนหน้าของอ๊อฟก็จะเรียวกว่านี้อีก สรุปคือ ชอบมากกกกก

 

สวัสดีค่า กลับมาพบกับอ๊อฟอีกแล้ว วันนี้อ๊อฟก็มีรีวิวดีๆ มาฝากเพื่อนๆ อีกเช่นเคย
จะบอกว่าตื่นเต้นมว๊ากกก เพราะเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาอ๊อฟได้ไปฟอกฟันขาวกับทาง COSDENT By SLC 
เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้ฟอกสีฟัน ต้องบอกก่อนเลยว่าอ๊อฟเคยผ่านการจัดฟันมาแล้วหลายปี
หลังจากถอดเหล็กดัดฟันออกเนี่ย สีของฟันก็ไม่สม่ำเสมอ ยิ่งบริเวณเขี้ยวเนี่ยเหลืองเชียว
ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจที่จะยิ้มโชว์ฟันซักเท่าไหร่ ยิ่งเวลาทำคลิปหรือจะต้องเจอคนเยอะๆ ก็จะประหม่า
ไม่ค่อยกล้าพูดหรือหัวเราะกว้างๆ เลยทำให้กลายเป็นคนไม่ค่อยจะมั่นใจ
และสาขาที่อ๊อฟเข้าไปรับบริการนั่นก็คือ COSDENT By SLC สาขา Siamsquare One ซึ่งอยู่ชั้น 6 นั่นเอง
การเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะ นั่ง BTS มาลงสยามแล้วเดินเข้าตึกสยามสแควร์วันขึ้นลิฟท์มาชั้น 6 นิดเดียว
นอกจากสาขา Siamsquare One แล้วก็ยังมีสาขาที่ทองหล่อ(ตรงข้ามซอยทองหล่อ25) อีกด้วยค่ะ
เดินทางมาด้วย BTS ได้เลย ไม่ยากค่ะ สะดวกสบาย
cosdent สาขาทองหล่อ โทร 098-656-3914
cosdent สาขาสยาม สแควร์วัน  ชั้น 6 โทร 093-882-3536
line  @cosdentbyslc
ที่นี่ไม่ได้มีบริการเฉพาะทำฟันเท่านั้นนะคะ ยังมี SLC สยามเลเซอร์ คลินิกซึ่งเป็นสถานพยาบาลความงาม
ครบวงจร จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งทางด้าน ผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่ง ทั่วเรือนร่าง
เอาเป็นว่ามาที่นี่สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย
และโปรแกรมที่อ๊อฟเลือกเข้ารับบริการวันนี้ก็มี
Easy Clean Package ( ขูดหินปูน+ ขจัดคราบชากาแฟ บุหรี่ ไวน์ที่ฝังบนผิวฟัน)
Easy White Package  (ฟอกฟันขาวด้วยนวัตกรรม Cool light )
มาถึงตรงนี้แล้วเดี๋ยวอ๊อฟจะพาเข้าไปดูข้างในว่าเป็นอย่างไรบ้าง…ตื่นเต้นๆๆ (ตามมาค่ะ)
เดินเข้ามาด้านในก็จะมีเค้าน์เตอร์สำหรับติดต่อ จะบอกว่าพี่ๆ ที่นี่บริการและต้อนรับดีมาก
สำหรับคนที่ยังไม่มีประวัติก็ทำการลงทะเบียนกรอกประวัติได้เลยค่ะ จะมีพี่พนักงานคอยให้คำแนะนำอยู่
หลังจากกรอกประวัติเรียบร้อยแล้ว พี่พนักงานก็จะพาเดินมาฝั่งขวาจะเป็น COSDENT ซึ่งเราจะทำฟันกันที่นี่ค่ะ
มาถึงห้องแรกพบปะพูดคุยกับคุณหมอ ซึ่งคุณหมอจะถามว่าพบทันตแพทย์ล่าสุดเมื่อไหร่ (นั่นสินะล่าสุดเมื่อไหร่)
หลังจากนั้นก็จะทำการตรวจสุขภาพฟันให้เราค่ะ ว่ามีฟันผุมั้ย สุขภาพเหงือกและฟันเป็นอย่างไรบ้าง
เพราะถ้าเกิดฟันมีปัญหาก็จะไม่สามารถทำการฟอกสีฟันได้
ดังนั้นถ้ามีฟันผุ ฟันคุดก็ต้องจัดการรักษาให้เรียบร้อยก่อนค่ะ
หลังจากนั้นก็จะทำการถ่ายรูปฟันของเราไว้เพื่อทำการเปรียบเทียบและเก็บเป็นประวัติของเราไว้ค่ะ
นอกจากถ่ายรูปแล้วก็จะทำการพิมพ์ฟันเก็บเอาไว้ ซึ่งคุณหมอน่ารักมาก ให้ทายด้วยว่าวัสดุที่เอามาพิมพ์ฟัน
ให้อ๊อฟเป็นรสชาติอะไร ถ้าตอบถูกจะได้น้ำแดงทานด้วย 555 แน่นอนว่าเรื่องกลิ่นและรสชาติอ๊อฟ
ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว มันคือ “กลิ่นมะม่วง” นั่นเอง หอมขนาดนี้ไม่มีทางทายผิดแน่นอน
หลังจากพิมพ์ฟันเสร็จก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไป X-ray ฟันค่ะ เพื่อจะได้วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง
ตั้งแต่เข้าคลีนิคทำฟันมาจะบอกว่าคลีนิคทันตกรรมที่นี่สมัยใหม่และมีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยมาก
ไปถึงเราก็แค่ยืนงับเจ้าแท่นนี้ไว้ ยืนเฉยๆ ค่ะ ถ้าใครมีเครื่องประดับก็ต้องถอดออกให้หมดนะคะ
ตรงนี้ใช้เวลาไม่นานเลย แปปเดียวก็เสร็จแล้ว
และผล X-ray ฟันของเราก็ออกมาแล้ว ปกติดีทุกอย่างแถมคุณหมอยังแนะนำวิธีการดูแลเหงือกและฟันให้อีกด้วย
ก่อนที่เราจะไปพบคุณหมอในห้องถัดไป เรามาดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้ฟันของเราเหลืองมีอะไรบ้างค่ะ
วันนี้อ๊อฟเลยทำภาพน่ารักๆ มาให้ดูกัน ซึ่งจริงๆ แล้วมันมีหลายสาเหตุมากมาย อาทิ เช่น
– เครื่องดื่มจำพวก ชา กาแฟ ไวน์ น้ำอัดลม
– การสูบบุหรี่เป็นตัวการสำคัญทำให้ฟันเหลือง
– การจัดฟัน ฟันเหลืองจากคราบอาหาร คราบหินปูน คราบแบคทีเรียสะสม
– อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวเคลือบฟันเริ่มจางหายไปตามกาลเวลาเนื่องจากการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน
– การดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แปรงฟันผิดวิธี แปรงฟันไม่สะอาดหรือไม่ใช้ไหมขัดฟัน
– การใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาฆ่าเชื้อโรคด็อกซี่ไซคลิน, ยาปฏิชีวะนะ ก็สามารถทำให้ฟันแท้มีคราบได้
– กรรมพันธุ์ บางคนอาจจะมีฟันเหลืองเร็วกว่าคนอื่นเนื่องจากมีชั้นเคลือบฟันที่บางกว่า
เป็นยังไงคะ รู้สาเหตุกันแล้วว่าตัวการทำให้ฟันเหลืองมีอะไรบ้าง แต่ใช่ว่าฟันเหลืองแล้วจะขาวไม่ได้เนอะ
การฟอกสีฟัน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งค่ะ ที่ช่วยให้ฟันเรากลับมาขาวสะอาดและมีรอยยิ้มที่สดใส
แต่ก่อนที่เราจะไปฟอกฟันต้องทำการขูดหินปูนก่อนเนอะ (แอบกระซิบว่าคุณหมอน่ารักมาก เกาหลีฝุดๆ )
หลังจากที่ขูดหินปูนเสร็จ โปรแกรมต่อไปของเราก็คือการขจัดคราบชา กาแฟ ไวน์ คราบบุหรี่
ด้วยนวัตกรรม Air Flow โดยจะเป็นการใช้วิธีการเป่าลมผสมผงขัดซึ่งสามารถทำความสะอาด
ได้เกลี้ยงเกลามากกว่าการขูดหินปูนปกติ
วิธีนี้ชิวมาก ไม่มีความเจ็บหรือความเสียวฟันใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากความเค็มหน่อยๆ หลังทำเสร็จบ้วนน้ำเยอะๆ ก็หายค่ะ
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนการฟอกสีฟัน คุณหมอจะใส่ยางซิลิโคนในปากของเราก่อน
จะบอกว่ามันไซส์ใหญ่มาก เพราะเป็นไซส์ยุโรป สาวเอเชียปากเล็กๆ อย่างเราต้องอ้าปากกว้างสุดพลัง
หลังจากนั้นก็จะทำการเทียบสีฟันกับชาร์ตฟันของคุณหมอ หลังฟอกเสร็จฟันของเรา
จะสามารถขาวขึ้นได้ 4 – 5 เฉดเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคนด้วยค่ะ
ซึ่งจริงๆ แล้วอ๊อฟก็ไม่ได้มีฟันเหลืองอะไรมากมายเพราะสีฟันธรรมชาติของอ๊อฟก็ออกไปทางขาวด้วยซ้ำ
แต่เวลาที่อ๊อฟต้องสวอชลิปใกล้ๆ เนี่ยพอทาลิปสีส้มหรือสีแดงกลับทำให้ฟันของอ๊อฟดูเหลืองมากขึ้น
ก่อนที่จะฟอกสีฟันจะต้องลงน้ำยาเพื่อป้องกันการโดนน้ำยาฟอกสีฟันบริเวณคอฟันและเหงือกด้วยน้ำยาพิเศษค่ะ
หลังจากนั้นก็จะทำการฉายเเสง UV
ขั้นตอนต่อมาคือ การลงน้ำยาฟอกสีฟัน ซึ่งคุณหมอจะไม่ได้ลงครบทุกซี่นะคะ
จะเป็นแผงฟันด้านหน้าบนและล่างเวลาเรายิ้มค่ะ
สวมแว่นตาแล้วเตรียมนอนได้เลย ของอ๊อฟจะฟอกด้วยกันทั้งหมด 2 รอบค่ะ รอบละ 15 นาที
ซึ่งแต่ละคนระยะเวลาการฟอกก็แตกต่างกันไปนะคะ ขึ้นอยู่กับคุณหมอพิจารณาค่ะ
ทาง Cosdent ได้นำนวัตกรรมของระบบ cool light (คลูไลท์) จากประเทศฝรั่งเศสมาใช้
ซึ่งสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นภายในระยะเวลาเพียง 45 นาที แถม 80% ของผู้ทำการฟอกสีฟัน
ไม่พบว่าเสียวฟัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพของเนื้อฟันของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
** อาการเสียวฟันที่เกิดจากการฟอกสีฟันนั้น เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ในบางท่านเท่านั้น
ซึ่งอาการดังกล่าวจะลดลงและสามารถหายได้เองภายใน 1 – 4 วัน **
หลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้วก็จะทำการกำจัดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก
เป่าฟันให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
 ” ความรู้สึกหลังฉายแสงรอบที่ 1 จะบอกว่านอนชิวมากแทบไม่รู้สึกอะไรเลย จนครบเวลาก็ไม่รู้สึก
หลังจากนั้นคุณหมอก็จะทำการลงน้ำยาฟอกฟันอีกรอบ แต่พอฉายแสงรอบ 2 ช่วงนาทีสุดท้ายเท่านั้นแหละ
จะมีเสียวแปล๊บที่ฟันเป็นบางซี่ แต่ก็เสียวเพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นเองค่ะ “
ถ้ามีอาการเสียวฟันมาก ทนไม่ไหว สามารถยกมือบอกคุณหมอได้ค่ะ
หลังฟอกฟันเสร็จก็ต้องตกใจเพราะมันขาวทะลุเกินชาร์ตไปอีก คุณหมอบอกว่าขาวพอๆ กับสีของวีเนียร์เลย
หลังฟอกฟันเสร็จสัก 1-2 วัน ของอ๊อฟก็มีอาการเสียวฟันบ้างเล็กน้อยค่ะ และถ้าเทียบกับฟันที่ยังไม่ได้ฟอก
ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ขาวขึ้นมาก ขาวสะอาด ขาวแบบไม่ปลอม ชอบมากกกกกก
หลังฟอกสีฟันในสัปดาห์แรกควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดคราบสีบนฟัน
เช่น การดื่มชา กาแฟ ไวน์แดง รวมถึงการงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ รวมไปถึงอาหารต่างๆ ที่มีสี เช่น
แกงไตปลา แกงเขียวหวาน ต้มยำน้ำข้น หรืออาหารที่มีเครื่องแกงสีจัดจ้าน แต่ถ้าจำเป็นต้องรับประทาน
ก็ให้ดื่มน้ำตามเยอะๆ แปรงฟันหรือบ้วนปากหลังรับประทานอาหารค่ะ นอกจากนี้การดูแลรักษาความสะอาด
อย่างถูกวิธีจะช่วยรักษาความขาวให้อยู่ได้นานมากขึ้น เพียงเท่านี้ฟันก็จะขาวสดใสสุขภาพดีไปอีกนานเลยค่ะ

สรุปเลยดีกว่าจะบอกว่าประทับใจมาก ประทับใจตั้งแต่คุณหมอ ผู้ช่วย ทุกคนน่ารักและให้คำปรึกษาดีมาก

และราคาก็ไม่ได้แพงเลย เห็นว่าตอนนี้มีโปรโมชั่นอยู่ราคา 5,900 บาท เท่านั้น ถ้าใครสนใจลองอ่าน blog

ที่อ๊อฟเขียนดูได้เลยค่ะ อ๊อฟรวบรวมขั้นตอนการทำ ก่อนทำ หลังทำ การดูแลก่อนและหลังฟอกสีฟัน

ไว้ให้หมดแล้ว หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คน ไม่มากก็น้อยเนอะ สำหรับรีวิวหน้าจะเป็นอะไร

มีอะไรดีๆ เด็ดๆ ดังๆ อย่าลืมติดตามกันนะคะ อ๊อฟจะรีบนำมาอัปเดตแน่นอน

สนใจสอบถามข้อมูลด้านทันตกรรมเพิ่มเติมได้ที่
cosdent สาขาทองหล่อ โทร  098-656-3914
cosdent สาขาสยาม สแควร์วัน ชั้น 6  โทร 093-882-3536
line : @cosdentbyslc
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Cosdent By SLC