Tag

Beauty

Browsing
สวัสดีค่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าร้อนแค่ไหน แต่ยิ่งอากาศร้อนจะให้อยู่แต่กับบ้านก็ดูจะน่าเบื่อเกินไป
วันนี้อ๊อฟเลยออกมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวบ้าน มาเดินดูดอกไม้ช่วงนี้กำลังบานสะพรั่ง
ถ่ายรูปออกมาสวยเชียวหละ
แต่ต่อจะให้ร้อนแค่ไหนวันนี้ก็ไม่กลัวสนุกกับการเดินเล่นได้เต็มที่เพราะปกป้องผิวมาดีเชียวแหละ
เพราะ Garnier ส่งตัวช่วย Garnier UVComplete SPF50+/PA++++ มาให้ทดลอง
สาวๆ อาจจะคิดว่าใช้ Moisturizer ที่มี SPF ก็เพียงพอแล้ว ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ เพราะแสงแดดบ้านเราร้อน
และแรงมากรังสียูวี ก่อให้เกิดผลเสียมากมายเพราะรังสีพวกนี้ทำร้ายลึกถึงชั้นผิว เป็นสาเหตุของปัญหาจุดด่างดำ
ความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย การใช้แค่มอยส์เจอไรเซอร์อาจจะไม่ได้ให้ประสิทธิภาพการปกป้องผิว
ที่เพียงพอเราจึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ช่วยปกป้องผิวระดับสูง

นี่เลยค่ะตอบโจทย์อ๊อฟมาก Garnier UV Complete SPF50+/PA+++ กันแดดความเสถียรสูงให้การปกป้อง
เต็มประสิทธิภาพ ครบถ้วนทุกรังสียูวีแถมยังปกป้องได้ยาวนานต่อเนื่อง 12 ชม.
และยังมีคุณสมบัติสาร Anti – Oxidantฟื้นบำรุงผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ
ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำไม่สดใส มีจุดด่างดำ กระ ฝ้าหรือริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยให้แลดูสุขภาพดี
 GARNIER UV Complete  SPF50/PA+++ ขนาด 30 ml ราคา 249 บาท

GARNIER UV Complete  SPF50/PA+++ ขนาด 15 ml ราคา 119 บาท
ด้วยเกราะป้องกันชั้นสูง สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB รวมไปถึง UVA1 รังสีที่ทำร้ายลึกถึงชั้นผิว
ต้นเหตุของความหมองคล้ำ จุดด่างดำ กระ ฝ้าแดด และริ้วรอยก่อนวัย ได้รับการันตีจาก CLEO Beauty
Hall of Fame 2015 ว่าเป็น Best SUNSCREEN in a budget budget หรือง่ายๆนะคะ
กันแดดที่ดีที่สุดในราคาประหยัดสุดๆ และตัวนี้อ๊อฟเห็นรีวิวจาก Beauty Blogger มากมาย
ยกให้กันแดดตัวนี้เป็นกันแดดตัวโปรดที่มีประสิทธิภาพ
ในการกันแดดที่ดีงามเทียบเท่ากับแบรนด์แพงๆ แต่มีราคาที่คุ้มค่าสุดๆ

เนื้อครีมมี 2 สี ด้วยกัน สีเบจกับสีธรรมชาติ ตัวเนื้อโลชั่นค่อนข้างบางเบาเกลี่ยง่าย
จะใช้เป็นเมคอัพเบสก่อนแต่งหน้าก็ได้ค่ะส่วนตัวชอบสีเบจเพราะมันเรียบเนียนไปกับสีผิว
ส่วนคนที่ชอบให้หน้าขาวขึ้นมาหน่อยแนะนำเป็นสีธรรมชาติค่ะที่สำคัญเนื้อครีมซึมซาบไว
ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว ไม่ได้ทาแล้วทำให้หน้ามันเยิ้ม ทาแล้วไม่ได้ขาววอกหรือลอยนะคะ

หลังจากใช้ Garnier UV Complete SPF50+/PA++++ แล้วอ๊อฟก็ลงทับด้วยแป้งผสมรองพื้น
แต่งหน้าตามปกติก็จะได้ลุคสบายออกไปเดินเล่นและที่สำคัญที่อ๊อฟบอกไว้ว่า กันแดดตัวนี้ให้การปกป้อง
ที่ยาวนานถึง 12 ชม.เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าต้องมานั่งทาสำหรับอากาศร้อนแบบนี้ 
อ๊อฟออกไปเดินเล่นมาทั้งวันก็ไม่ได้ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้นนะคะเหมาะกับสภาพอากาศแบบบ้านเรามากๆ
และให้ผลลัพธ์ในการปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะได้ดีงาม ที่สำคัญตัวนี้ไม่มีน้ำหอมค่ะ
คนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สบายใจได้เลย

และแล้วร้อนนี้ก็ไม่กลัวแดดทำร้ายอีกต่อไปเพราะมี Ganier UV Complete SPF50+/PA+++
กันแดดสุดเริ่ด ราคาประหยัด ไม่ว่าจะเที่ยวไหน ทำอะไรก็ไม่กลัวแดดแล้ว มอบมงให้เลยค่ะ
 
#GarnierUVComplete #ยูวีแชมป์เปี้ยน #ร้อนนี้ชนะเลิศ #สวยชนะทุกสิ่ง #สวยมอบมง
สวัสดีค่า สงกรานต์ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่อ๊อฟเชื่อว่าคนที่เล่นสงกรานต์ต้องมีปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดดแน่ๆ ไหนจะแป้งดินสอพอง ไหนจะน้ำที่ไม่สะอาด แตกแดดตากลม สารพัดที่เราจะโดนช่วงสงกรานต์ บางคนถึงกับแพ้มีผดผื่นหรือสิวขึ้น ผิวคล้ำเสียจากการโดนแดด วันนี้อ๊อฟเลยคัดเอาของดีๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูดูแลผิวหลังสงกรานต์หรือโดนแดดเผามาฝากกันค่ะ
วิธีที่ 1 แน่นอนค่ะ ครีมกันแดดต้องทาทุกวัน ต่อให้เราอยู่บ้านหรืออยู่ในที่ร่มก็ต้องทาครีมกันแดดนะคะ
และถ้าต้องออกไปเจอแสงแดดควรจะหาอะไรปกป้องผิวด้วย ไม่ว่าจะเสื้อคลุมแขนยาว หมวกหรือร่ม
และที่สำคัญครีมกันแดดควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชม. อ๊อฟจะใช้ครีมกันแดดสองตัวคือสำหรับใบหน้าและสำหรับตัว

1. MizuMi UV Water Serum ฝาสีฟ้า ชอบตรงใช้แล้วไม่เป็นสิวอุดตัน ตัวนี้ไม่กันน้ำ ไม่มีน้ำมัน,เเอลกอฮอล์,
สารกันเสีย,พาราเบน,น้ำหอมเเละสีเนื้อครีมกันแดดจะเบากว่าหลอดสีส้ม ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เกลี่ยง่ายซึมไว
และก็กันแดดได้ดี เสียดายแพงไปนิดนึง
2. CIELO  Double Protection Sunscreen & Moisturizer ครีมกันแดดเนื้อมูส ตัวนี้อ๊อฟใช้ทาตัว เนื้อมูสสีขาว
เวลาเกลี่ยจะแตกตัวเป็นน้ำ ซึมซาบเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ มีค่า spf มากถึง 50 ซึ่งถ้าน้อยกว่านี้
อ๊อฟว่าไม่โอเคที่สำคัญตัวนี้เค้ามีส่วนผสมของ alovera จึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นอีกด้วย
ใครที่มองหากันแดดแบบไม่เหนียวเหนอะหนะเป็นคราบสีขาวตัวนี้อ๊อฟว่าตอบโจทย์นะ

วิธีที่ 2 เจลว่านหางจระเข้ อันนี้อ๊อฟแนะนำเลยหลังผิวโดนแดดควรทา เพราะมันจะช่วยลดการอักเสบ
และการระคายเคืองให้กับผิว ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่น ถ้าใครปลูกว่านหางจระเข้ที่บ้านจะตัดออกมาทา
ก็ได้เหมือนกันค่ะแต่เดี่ยวนี้สะดวกสบายเนอะเพราะเค้ามีผลิตภัณฑ์ จากว่านหางจระเข้ออกมาเยอะแยะ
1.Vitara Aloe Vera Gel 99.5% ราคาประมาณ 175 บาท ตัวนี้อ๊อฟซื้อที่ร้านขายยาทั่วไปค่ะ
ตัวนี้มีเนื้อเจลจะค่อนข้างเหนียวแต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีไม่เหมาะกับสาวๆที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะ
และมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบสาวๆ คนไหนเสี่ยงที่จะมีอาการแพ้ ลองทาที่หลังแขนดูก่อน
แต่ตัวนี้อ๊อฟจะใช้ทาตัวไม่ได้ใช้ทาหน้าค่ะ
2. Smooto Aloe-E Snail Bright Gel 99.5% สำหรับใครที่แพ้แอลกอฮอล์แนะนำตัวนี้เลย
เพราะตัวนี้เค้าไม่มีแอลกอฮอล์เป็น must have item ที่ถูกและดี ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ประกอบไปด้วยว่านหางจระเข้
ถึง 99.5% ส่วนที่เหลือก็จะเป็นพวกวิตามินE เมือกหอยทาก และ ไฮยาลูรอน ช่วยฟื้นฟูผิวจากผิวคล้ำเสีย
จากการโดนแสงแดด ทาได้ทุกที่ไม่ว่าจะใบหน้า ลำตัวข้อศอก มือ เล็บ เท้า
สารพัดประโยชน์มากราคาน่ารักเพียงแค่ 49 บาท หาซื้อได้ตาม 7/11 ทั่วไป

วิธีที่ 3 โลชั่นบำรุงผิว อ๊อฟเลือกใช้ของ Jergens Soothing Aloe Refreshing Moisturizer ถ้าใครชอบใช้โลชั่น
ของเจอร์เก้นส์ก็จะชอบสูตรนี้เช่นกัน เพราะอ๊อฟเป็นคนผิวแห้งมาก โลชั่นธรรมดาทาแล้วไม่ค่อยจะชุ่มชื่น

ที่เลือกสูตรนี้มาเพราะมันเหมาะกับตอนนี้มาก ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย ด้วยส่วนผสมของว่านหางจระเข้และแตงกวา
ซึมซาบเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีมาก เหมาะกับคนผิวแห้งอย่างเรา

วิธีที่ 4 สกินแคร์ดูแลผิว อ๊อฟขอเลือกเป็นตัวนี้มา Biotherm Life Plankton Essence
น้ำตบแพลงค์ตอนอันโด่งดังมันไม่ได้ดังแค่ชื่อเนาะ เพราะของเค้าดีจริง
ตัวนี้จะช่วยให้ผิวหน้าที่อักเสบพวกรอยแดง หายได้ไวขึ้นและดีขึ้น

ตัวเนื้อเอสเซ้นส์เมื่อตบๆ มันจะเคลือบผิวไว้ ไม่ได้ใสเป็นน้ำเลยทีเดียว ตัวนี้อ๊อฟว่ามันเหมาะกับคนที่ผิวแห้ง
ซึ่งเหมาะกับผิวอ๊อฟเลยคนผิวมันอาจจะไม่เหมาะ ตบๆ ซึมเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่น ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น
ใช้จนขวดที่ 3 แล้วววว

วิธีที่ 5 คือ การมาส์กผิวหน้า แน่นอนว่าเราโดนแสงแดด มลภาวะ มาทั้งวัน แค่ครีมบำรุงอาจไม่เพียงพอ
การมาส์กหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูดูแลผิวได้ดี ซึ่งเดี่ยวนี้เค้าก็มีมาส์กออกมาหลายสูตร
ซึ่งช่วยตอบโจทย์มากมายการมาส์กหน้านั้นทำได้บ่อยตามที่ต้องการ สัปดาห์นึงอ๊อฟจะมาส์ก 3-4 วัน
เลยทีเดียว ช่วงที่เราโดนแดดจัดๆอ๊อฟแนะนำว่าอย่าสครับผิวนะคะรอให้ผิวแข็งแรงและหายดีก่อน
ช่วงนี้ก็ขอให้มาส์กหน้าวนไปก่อนเนาะ

มาส์กที่ชอบใช้ช่วงนี้จะเป็น  Envy mark facial mask by verena ตัวที่แนะนำช่วงนี้จะเป็นสูตร  Envy aloevera
snail slime and chamomile facial mask มาส์กบำรุงผิวหน้าที่มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้,เมือกหอยทาก
และดอกคาร์โมมายล์ ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น รูขุมขนดูกระชับขึ้น สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่ผิวขาดน้ำ
ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวแผ่นมาส์กหนากำลังดี ชุ่มไปด้วยสารบำรุง เวลามาส์ก น้ำที่เหลือในซองหรือแผ่นอ๊อฟ
ชอบเอามาทาตัว ทาข้อศอกทาเท้า เรียกว่าไม่ให้เหลือสักหยดจะสวยทั้งทีต้องเอาให้คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปเนอะ

วิธีที่ 6 อาหารเสริม อย่างที่บอกอาหารเสริมก็คืออาหารเสริม เราควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
ผักผลไม้เยอะๆ จะช่วยบำรุงผิวได้หลังจากนั้นจึงค่อยหาอาหารเสริมเพิ่มเติมหรือชดเชยส่วนที่ขาดหายไป
Nutroxsun ตัวนี้เค้าบอกเป็นกันแดดแบบชงดื่มที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำฝ้ากระจากแดดและมีคอลลาเจน
ถึง 10,000 มก.เอาเป็นว่าตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นผลแต่ก็ทานไปเพราะมันอร่อยและเหมาะกับหน้าร้อนดี

จริงๆ การดูแลผิวก็มีมากมาย แต่วันนี้อ๊อฟจะมาแชร์ตัวช่วยและเทคนิคดีๆ ที่ช่วยดูแลผิว ช่วยฟื้นฟูให้ผิวมันใสขึ้น ซึ่งทั้งหมดก็ใช้เองทุกตัว อ๊อฟไม่ใช่คนผิวขาว จะให้ใช้แล้วขาวก็ไม่ใช่ แต่อ๊อฟใช้แล้วผิวสวยในแบบของอ๊อฟ เป็นผิวหญิงผิวสองสีที่เน้นความเนียนกระจ่างใสของผิว ยังไงก็นำไปปรับใช้และดูเป็นแนวทางกันเนอะ สุดท้ายนี้อยากบอกว่า อย่าลืมทาครีมกันแดดเน่อ เพราะบ้านเรามันร้อนแบบสุดๆ ไปเลย

สวัสดีค่ะ จำได้มั้ยเอ่ย เมื่อช่วงเดือนมกราอ๊อฟโพสผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้ของ Provamed ไป
จะบอกว่าลองใช้มาครบเดือนแล้ว เลยจะมารีวิวให้สาวๆ ได้ดูกันซึ่งจะบอกว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เหมาะมาก
กับวัยทำงานอย่างเรา ระหว่างวัย 25 ปีขึ้นไปหรือคนที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองผิวหน้าโทรม
หมองคล้ำหรือคนชอบนอนดึกซึ่งมันตอบโจทย์อ๊อฟมากๆ
เพราะอ๊อฟต้องนั่งเขียนงานรีวิวจนดึกเลยแอบตื่นเต้นที่จะมารีวิวให้ดูกัน

และตัวที่จะมารีวิวนั่นก็คือ Provamed Astaxanthin Night Jelly (โปรวาเมด แอสตาแซนติน ไนท์ เจลลี่)
Provamed Astaxanthin Series สารสกัดจากสาหร่ายสีแดงธรรมชาติคุณภาพสูงสุดในโลกจากญี่ปุ่นลิขสิทธิ์
เฉพาะของ AstaREAL® ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อคงไว้ซึ่งความอ่อนเยาว์เปล่งปลั่ง
ป้องกันปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สัญญาณแรกเริ่มของริ้วรอยสำหรับสาววัย 25+
Provamed Astaxanthin Series ด้วยประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระ มากกว่าวิตามินซี 6,000เท่า
มากกว่า วิตามินอี 550 เท่า มากกว่าโคเอนไซม์ คิวเท็น 800 เท่า มากกว่าเมล็ดองุ่น 17 เท่า

ซึ่งที่เห็นเจลออกเป็นสีแดงนั้นคือสีจริงๆของแอสต้าแซนธินที่ช่วยเน้นเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ
จะบอกว่ามันเหมือนขนมมากเป็นเนื้อเจลลี่ นุ่มๆ ตักทานพอดีคำ เอ๊ยไม่ใช่ มาดูคุณสมบัติกันบ้างดีกว่า
ตัวแอสตาแซนธินเค้าบอกว่าเป็นราชินีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าวิตามินซี 6000 เท่า
ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำและความแห้งกร้าน ช่วยฟื้นฟูปรับสภาพผิวให้ยืดหยุ่นรู้สึกถึงผิวแน่นกระชับ

ขนาด 30กรัม ราคา 490 บาท

หาซื้อได้ตามร้านขายยา และห้างซุปเปอร์สโตร์ทั่วประเทศ

ซึ่งตัวเนื้อเจลอย่างที่บอกมันเนียนนุ่มแต่เข้มข้นเมื่อทาลงบนผิวหน้าแล้วเกลี่ยจะกลายเป็นเนื้อเอสเซนส์
ซึ่งซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญไม่เหนียวเหนอะหนะเลย

วิธีใช้ทาเป็นประจำให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เคล็ดลับการทาครีมเนอะ ให้ทาขึ้นไปข้างบน ค่อยๆนวดให้ตัวเนื้อเจล
ซึมเข้าสู่ผิว นอกจากจะบำรุงผิวแล้วการทาและนวดแบบนี้ยังทำให้ใบหน้ากระชับได้อีกด้วย

สรุปๆๆเลยดีกว่า ที่บอกไปตอนต้นว่าเหมาะกับคนที่อายุ 25 ปี หรือมากกว่านั้นคนที่ทำงานหนัก ทำงานดึกไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้พอสมควรเรื่องริ้วรอยนั้นอาจจะยังไม่เห็นผลมากแต่อ๊อฟเห็นได้ถึงผิวที่แน่นกระชับขึ้นส่วนเรื่องริ้วรอยที่อ๊อฟมีปัญหาคงจะเป็นบริเวณรอบดวงตาคงต้องบำรุงกันหนักๆซะหน่อย อย่าลืมนะคะ เลือกครีมดีๆที่ตรงตามความต้องการมีปัญหาตรงไหนเลือกให้ตรงจุด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารดีๆ ผิวสวยๆ อ่อนกว่าวัยก็อยู่ไม่ไกล

 

ปัญหากวนใจของสาวๆ ที่แต่งหน้าบ่อยๆ  คือ การมีสิวจากการล้างหน้าไม่สะอาดเลยทำให้แต่งหน้า
ไม่เรียบเนียน ซึ่งปัญหาหลักๆ ของการเกิดสิวนอกจากฮอร์โมน,แบคทีเรียหรือต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมาก
เกินไปแล้ว การล้างหน้าไม่สะอาดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ของการเกิดสิวนอกจากฮอร์โมน,แบคทีเรียหรือต่อม
ไขมันที่ผลิตไขมันมากเกินไปแล้ว การล้างหน้าไม่สะอาดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้เช่นกัน
ดังนั้นการล้างหน้าให้ถูกวิธี ก็ช่วยให้ผิวหน้าของเราสะอาดแล้วยังช่วยลดการเกิดสิวได้อีกด้วย
มื่อล้างหน้าถูกวิธีแล้วการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวก็สำคัญเช่นเดียวกัน วั
นนี้อ๊อฟเลยมีผลิตภัณฑ์ของ Facelabs ที่เป็นเวชสำอางที่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่
คิดค้นและพัฒนามาเพื่อผิวแพ้ง่ายและเพื่อความแตกต่างของทุกสภาพผิวมาฝากกันค่ะ
ซึ่งผลิตภัณฑ์วันนี้เป็นเจลล้างหน้าทั้งหมด 4 เบอร์ด้วยกัน
Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.0 สำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
 
Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.1 สำหรับผิวแห้ง – แพ้ง่าย
 
Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.2 สำหรับผิวธรรมดา – แพ้ง่าย
 
Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.3 สำหรับผิวมัน – แพ้ง่าย
 Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.0 สำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
ผู้มีผิวประเภทนี้ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะแพ้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์
และอีกหลายอย่าง เพราะโครงสร้างของผิวไม่แข็งแรง ผู้มีผิวแพ้ง่ายจะคล้ายกับคนผิวแห้ง แต่ผิวจะแห้งกว่า
และยังเกิดรอยแดงหรือผื่นได้ง่ายกว่าอีกด้วย ดังนั้นผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษควรเลือกใช้เจลเบอร์ 0
เพราะปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ทั้ง 6 ชนิด (สี น้ำหอม SLS (sodium Lauryl Sulface)
พาราเบน สบู่และแอลกอฮอลล์)

Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.1 สำหรับผิวแห้ง – แพ้ง่าย
สำหรับคนผิวแห้ง ปัญหาผิวแห้งนั้นเกิดจากการที่ต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันได้น้อย ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาริ้วรอย
ก่อนวัย แถมยังมีปัญหาเรื่องการเก็บความชุ่มชื่นไม่ค่อยได้ ทำให้รู้สึกตึงผิวหน้าหลังจากที่ล้างหน้าเสร็จ
ผิวหน้าจะแห้งบางครั้งเป็นขุย ดังนั้นถ้าเป็นคนผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่มีฟอง
หรือมีก็น้อยที่สุดค่ะ และควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ดังนั้นมาถูกทางแล้วเพราะเจลตัวนี้
มี Double Moisturizer เจลล้างหน้าที่ไม่ทำลายน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นเป็นสองเท่าด้วย
ส่วนผสมของ Sodium PCAพร้อมเก็บล็อคความชุ่มชื้น ตัวนี้ต้องบอกเลยเหมาะกับอ๊อฟมาก

Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.2 สำหรับผิวธรรมดา – แพ้ง่าย
ต้องขอปรบมือให้กับคนที่มีผิวธรรมดาก่อนเลยเพราะว่าผู้มีผิวธรรมดา ถือเป็นกลุ่มที่ดูแลรักษาผิวได้ง่ายกว่า
ผิวประเภทอื่น ซึ่งสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายแต่ถ้าเป็นผิวธรรมดาแต่แพ้ง่ายก็ยังต้องเลือกใช้
ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวเสียสมดุล เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจาก
ธรรมชาติที่อ่อนละมุนมากเป็นพิเศษเป็นตัวชำระล้างที่ชื่อว่า TEA-Cocoyl Glutamate เป็นสารสกัดจาก
มะพร้าว ช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าโดยไม่ทิ้งสารตกค้างและทำร้ายผิวหน้า

Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.3 สำหรับผิวมัน – แพ้ง่าย
สำหรับคนผิวมันจะมีรูขุมขนที่ดูกว้างกว่าผิวประเภทอื่น เพราะมีการไหลผ่านของน้ำมันค่อนข้างมาก
ในช่วงหน้าผาก จมูก และคาง (ทีโซนทำให้คนผิวมันและผิวผสมจะเป็นสิวง่าย
ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี oil control หรือเลือกแบบเนื้อเจลมากกว่าแบบอื่น
มาดูกันที่แพคเกจบ้างค่ะ เจลล้างหน้าถูกบรรจุอยู่ในหลอดสีขาวขนาดเหมาะมือ เนื้อเจลด้านในเป็นเจลสีใส
ไม่ไหลเยิ้มซึ่งเจลแท้จะมีความคงตัวสูงไม่หกเวลาใช้ ซึ่งถ้าหากเป็นเจลเทียมจะมีส่วนผสมของ NaCI
หรือเกลือแกงที่เราใช้ปรุงอาหารซึ่งอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเราเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองค่ะ

และสูตรที่เหมาะกับอ๊อฟก็คือ Facelabs Facial Cleanser Pure Gel No.1 สำหรับผิวแห้ง – แพ้ง่าย ค่ะ
การล้างหน้าของอ๊อฟอย่างแรกเลยหลังจากที่เราลงครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ลงรองพื้นและแต่งหน้าแล้วจะใช้
Makeup Remover เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก่อน หลังจากนั้นจึงใช้คลีนซิ่งเจลทำความสะอาดผิวหน้าค่ะ

ตัวเนื้อเจลใสไม่ไหลเยิ้ม ที่สำคัญไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เวลาใช้ก็บีบเจลผสมน้ำแล้วลูบให้ทั่วใบหน้า และเคล็ดลับอีก
อย่างในการล้างหน้าของอ๊อฟคือ การล้างหน้าตามแนวขนค่ะ ซึ่งสาวๆ อาจเคยได้ยินมาแล้ว
จะบอกว่ามันเวิร์คมาก การล้างหน้าตามแนวขนทำได้ไม่ยากค่ะ แค่เปลี่ยนจากการลูบๆ วน ๆ ไปทางเดิม
เปลี่ยนเป็นการลูบวนทำความสะอาดหน้าไปตามแนวขนของเราค่ะ
หลังจากล้างหน้าเสร็จผิวไม่แห้งตึงเลย อย่าเข้าใจผิดนะคะว่าล้างหน้าเสร็จแล้วถูผิวดังเอี๊ยด เอี๊ยดแล้ว
นั่นหมายถึงว่าสะอาด

สุดท้ายนี้ต้องบอกว่าแต่ละคนมีสภาพผิวที่ไม่เหมือนกัน การดูแลผิวก็มีความแตกต่างกันไปด้วย
ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ ทุกสภาพผิวควรจะได้รับการดูแล
เป็นอย่างดีนอกจากจะล้างหน้าให้สะอาดแล้ว อย่าละเลยการบำรุงผิวด้วยนะคะผิวสวยใสไร้สิวอยู่ไม่ไกล
หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและล้างหน้าที่ถูกวิธีค่ะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน บ๊าย…บายค่า
สวัสดีค่า วันนี้หมอจะมาฉีดยา เอ๊ยไม่ใช่ เห็นอ๊อฟถือไซริงค์แบบนี้ไม่ต้องตกใจนะคะ มันคือ สกินแคร์รูปแบบใหม่
ที่มาในหลอดไซริงค์ ซึ่งให้ตายเถอะอ๊อฟก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกเหมือนกัน แล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผิว
สาวเกาหลีเค้าถึงดูดี ดูเนียน ดูสาว ดูสวยจังเพราะ Beauty Shot เค้ามีส่วนผสมที่ใช้เฉพาะในคลีนิคเสริมความงาม
ของสาวเกาหลีทีเดียวเชียวแหละซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าจากประเทศเกาหลี ที่ผ่านทั้งอย. จากเกาหลี
และประเทศไทยค่ะ

ซึ่งก็มีทั้งหมด 4 สูตรด้วยกัน อ๊อฟจะแบ่งตามสีของผลิตภัณฑ์นะคะ จะได้ดูเข้าใจง่าย
Beauty Shot Egg Contour (สำหรับผิวหน้าเรียวกระชับ)
บิวตี้ช็อตเพื่อใบหน้าดูเรียวกระชับแบบ V เชป โดดเด่นด้วยส่วนผสม PPC (Acetyl Hexa Peptide Derivative) เข้มข้นช่วยฟื้นบำรุงอย่างล้ำลึกคืนชีวิตให้ผิวที่ดูหย่อนคล้อยกลับแลดู ยกกระชับ
เพื่อมอบรูปหน้าในฝันแด่ผู้หญิงทุกคน
Beauty Shot Water Light (สำหรับผิวหน้าชุ่มชื้น)

ดูฉ่ำน้ำสุขภาพดีแบบสาวเกาหลี โดดเด่นด้วยส่วนผสมไฮยาลูรอนิกเข้มข้น มีส่วนช่วยฟื้นบำรุง
และเติมน้ำให้ผิวกลับดูชุ่มชื่นอิ่มเอิบ 
Beauty Shot White Jade (สำหรับผิวหน้าหมองคล้ำ)

Beauty Shot เพื่อผิวสวยกระจ่างใส เปล่งประกายแบบผิวดูสุขภาพดี โดดเด่นด้วยส่วนผสมกลูตาไธโอนเข้มข้น
ที่มีประสิทธิภาพโดดเด่น สามารถรับมือกับปัญหาผิวที่ได้รับการระคายเคืองเนื่องมาจากแสงแดดที่รุนแรง
สีผิวไม่สม่ำเสมอได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยให้ฝ้า กระและจุดด่างดำแลดูลดเลือนลงจนสังเกตได้
Beauty Shot Cinderella (สำหรับผิวหน้าอ่อนเยาว์)

Beauty Shot เพื่อริ้วรอยดูลดเลือน โดดเด่นด้วยส่วนผสม Alpha-Lipoic Acid เข้มข้น ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงเหนือสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยซึมซาบเข้าฟื้นบำรุงผิวและลดเลือนริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ดวงตาอย่างได้ผล คืนผิวสวยอ่อนเยาว์ให้กับผู้หญิง

และตัวที่อ๊อฟคิดว่าควรจะลองกัน นั่นก็คือ Beauty Shot Water Light (สำหรับผิวหน้าชุ่มชื้น)
ซึ่งเราจะเห็นสาวเกาหลีส่วนใหญ่มีผิวที่สุขภาพดีขาวอมชมพูและดูฉ่ำน้ำ เจ้าตัวนี้ก็โดดเด่นไปด้วยส่วนผสม
ไฮยาลูรอนิกเข้มข้นที่มีส่วนช่วยฟื้นบำรุงและเติมน้ำให้ผิวดูชุ่มชื่นอิ่มเอิบเห็นหลอดเล็กๆ แบบนี้
แต่ทางแบรนด์บอกว่าความเข้มข้นของครีมและสารบำรุงนั้นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นถึง 100 เท่าเลยแหละ
ตัวเนื้อครีมค่อนข้างข้นเกลี่ยง่ายและซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็ว
พอทาแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าผิวดูชุ่มชื้นขึ้นทันที
ราคา 490 บาท

ยังไม่หมด ความเก๋มันอยู่ตรงนี้ตรงที่เราสามารถนำครีมมาผสมด้วยกันได้ตามสูตรที่เราต้องการ
อยากใส่ตรงไหนเพิ่มอะไรหยิบมามิกซ์ได้เลยสามารถใช้ทาตรงจุดที่มีปัญหาหรือจะนำสูตรโน้นสูตรนี้มาผสม
แล้วทาก็ได้เหมือนกันค่ะแต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบไซริงค์ ตอนใช้อาจจะควบคุมปริมาณยากหน่อยค่ะ
ถ้าคอนโทรลไม่ดีก็พุ่งพรวดออกมาเยอะเหมือนกัน ต้องค่อยๆ กดไซริงค์ช้า ๆ กดออกมานิดๆ หน่อยๆ
เพราะใช้จริงๆ แค่นิดเดียวก็พอค่ะ

วิธีใช้ก็ง่ายมากเลยค่ะ ใช้หลังล้างหน้าตอนเช้าและตอนเย็นทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ แนะนำว่าตอนทาควร
สวมบทบาทคุณหมอหรือนางพยาบาลใจดีเข้าไป ไม่มีอะไรมากแค่เพิ่มความน่ารักในการทาครีมเท่านั้นเอง 

สำหรับสูตรนี้ความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์และความชุ่มชื้นถือว่าสอบผ่านเพราะให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก
ผิวดูชุ่มชื้นขึ้แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นสามารถเอามาผสมกับ Makeup base , BB cream
หรือรองพื้นเพื่อให้ผิวดูฉ่ำน้ำได้อีกด้วย

พกพาสะดวก และความเก๋ของผลิตภัณฑ์ดีต่อใจ สำหรับใครที่ชอบความใหม่ความเก๋และความเข้มข้น
ไปหามาเล่นกันรับรองสนุก เอ๊ย รับรอง(ผิว)สุขภาพดีแน่นอน สำหรับวันนี้ต้องขอไปฉีดยาเพิ่มความสวยก่อนนะคะ
บ๊าย บายค่า