Category

Travel

Category

วันนี้อ๊อฟจะพาไปถ่ายรูปเล่นที่นึงที่สาวๆเห็นแล้วจะต้องสะกิดคนข้างๆให้พาไป  บอกไว้เลยต้องห้ามพลาด!!!!ไปถ่ายรูปลงไอจีซะเพราะที่นี่คือ”สายลมบางปู”
SailomBangpoo, CeramicCafe

แต่ตรงที่อ๊อฟภูมิใจนำเสนอเป็นในส่วนคาเฟ่ที่ตกแต่งไปด้วยงานเซรามิก

เห็นแล้วจะต้องหลงรักเพราะมันโล่งโปร่งสบายตกแต่งประดับประดา
ไปด้วยงานเซรามิกเก๋ๆน่ารักๆเต็มไปหมด
แต่ๆๆๆเค้าไม่ได้เอามาตกแต่งอย่างเดียวเค้ายังมีขายอีกด้วยแก้วชามของเล็กๆน้อยๆ
เค้าตั้งอยู่ที่เดียวกับร้านอาหารสายลมบางปูอยู่ในซอยบางปู 72
ขับรถเลยมาจากสถานพักตากอากาศบางปูไม่ไกลจิ้มgooglemapโลดไม่หลงแน่นอน
บรรยากาศที่นี่ก็โล่งโปร่งสบายอย่างที่เห็นอากาศร้อนแต่ก็มีลมเย็นๆโชยมา
นี่เค้ามีกาแฟอิตาเลี่ยนโซดาและเครปกับบราวนี่ขายแต่ชอบสุดก็เป็นอิตาเลี่ยนโซดา
รสเสาวรสลาเวนเดอร์เปรี้ยวซ่าหอมหวานสะใจแก้วละ 85 บาท ขนาดแก้วใส่น้ำยังน่ารักเลย ที่นี่เค้าตกแต่งน่ารักมากถ้าใครได้มาต้องชอบ
ใครอยากได้ของน่ารักๆกลับบ้านก็เลือกซื้อได้เลยราคาก็มีตั้งแต่ 1xx จนไปถึงหลักพัน
มุมถ่ายรูปที่นี่เค้าก็สวยแสงก็ดีอ๊อฟถ่ายแทบจะทุกมุม
เดินไปเดินมามันก็วอแวอยากจะได้ของกลับบ้าน
ดูข้างในกันให้จุใจเดี๋ยวอ๊อฟจะพาออกไปข้างนอกแล้ว
ออกมาข้างนอกแสงกำลังสวยเลยตอนอ๊อฟไปอยู่จนถึงมืดเลยช่วงที่ถ่ายก็จะ 4-5 โมงเย็น
มุมชิวๆจิบกาแฟเพียบเลยวันที่ไปคนค่อนข้างเยอะนะคะเพราะเป็นวันหยุด
ฟ้าใสๆตัดกับเซรามิคสีสวยๆดูสดใสดีจัง
ใครไม่รู้จะไปไหนอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปเล่นกันเนอะอ๊อฟยังอยากมาอีกเลย
ถ้ามาอีกจะไปตรงโซนร้านอาหารเพราะเดินเข้าไปดูแล้วสวยดี

สวัสดีค่ะ ขอเริ่มภาพเปิดมาที่ดอกพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย เลยละกัน ทริปนี้เป็นทริปที่วางแผนกันข้ามปี เนื่องจากซื้อเต้นท์มาใหม่เลยอยากไปลองของกัน คิดไปคิดมาถ้าจะกางเต้นท์ต้องวิวดีๆ หน่อย นอนมองดูดาว อากาศเย็นๆ เราเลยเลือกที่จะไปเชียงรายกันนั่นเอง

ด้วยความที่เราไปช่วงมกราก็ยังถือว่าโชคดีมากที่จะได้เห็นดอกพญาเสือโคร่งบาน เพราะเค้าจะบานถึงประมาณช่วง
 
เดือนกุมภาหลังจากที่ลงจากเครื่องบินก็ทำการเช่ารถ ทริปนี้เราจะเน้นอยู่กับธรรมชาติล้วนๆ จะไม่เข้าเมือง
 
ไปให้วุ่นวายจะใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุด

ที่แรกที่เราจะไปคือ ภูชี้ดาว เป็นจุดที่ชมทะเลหมอกได้สวยที่สุดอีกที่ไม่แพ้ภูชี้ฟ้าเช่นกัน
 
แต่ที่อ๊อฟไปมันช่วงเวลาเที่ยงกว่าๆ 

เรียกว่าไปเซอร์เวย์ชมบรรยากาศกันก่อน แต่ถึงจะอากาศเย็นแดดที่นี่ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน
 
จะได้ภาพสวยต้องอดทนเนอะ ถ่ายวนไปค่ะจะขึ้นมาภูชี้ดาวนี่ไม่สามารถขับรถส่วนตัวขึ้นมาได้ต้องรถ 4×4 เท่านั้น
 
แล้วที่นี่ก็มีรถให้บริการขึ้นมาด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าจ่ายไปเท่าไหร่น่าจะคนละร้อยกว่าบาทได้ ขึ้นไปต้องผ่านหมู่บ้าน
 
ทางค่อนข้างแคบและชันแถมข้างบนยังไม่มีไฟฟ้า ที่พักและร้านอาหารดังนั้นถ้าจะขึ้นไปควรจะเตรียมน้ำพกไปดื่ม
 
ระหว่างทางด้วย เพราะเราต้องเดินกันไกลพอสมควรเลยทีเดียวอีกอย่างจะเดินตรงนี้ต้องระมัดระวังด้วยนะคะ
 
ซ้ายก็เหวขวาก็เหวเดี๋ยวจะพลัดตกลงไป

ขึ้นมาด้านบนแล้ว อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีหมอก ดูนี่จิมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าเลย เราจะไปนอนกันตรงโน้น

จัดแจงกางเต้นท์ให้เรียบร้อย วันที่ไปเป็นวันธรรมดาดังนั้นคนที่จะมากางเต้นท์ก็ไม่มากเท่าไหร่ เรียกได้ว่าส่วนตัว
 
สุดๆอากาศมันหนาวมากจริงๆ เลยต้องเช่าเตาไฟซื้อข้าวโพดปิ้งมาประทังความหนาว ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งดึกก็ยิ่ง
 
หนาวเช่นกันแต่จะบอกว่ามันโคตรคุ้มเลยบรรยากาศหลักแสนมาก ดาวเป็นดวงๆ ได้นอนมองดาวแค่นี้ก็สุขใจแล้ว
 
วันนี้ต้องรีบข่มตานอนก่อนเพราะอากาศมันหนาวมาก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

เราตื่นกันแต่เช้าน่าจะประมาณตีสี่ตีห้าได้เพื่อจะเดินขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น อากาศหนาวและคนก็ขึ้นมาค่อนข้าง
 
เยอะเหมือนกันต่างคนต่างจับจองที่จะถ่ายรูป บางครั้งมองผ่านกล้องมันก็ลดทอนความสวยงามของภาพ
 
ที่เห็นด้วยตาตัวเองเหมือนกัน
ภาพสวยก็ให้เป็นหน้าที่ของช่างภาพส่วนตัวไป ส่วนเราก็บันทึกความทรงจำ
 
และดื่มด่ำกับบรรยากาศตรงนั้นให้ได้มากที่สุด

สเน่ห์ของที่นี่อีกอย่างคือเราจะเห็นเด็กดอยตัวเล็กแก้มแดงๆ ยืนอยู่ข้างทางส่งเสียงร้องเพลงเจื้อยแจ้ว
 
หลังจากที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้ว ด้วยความง่วงก็เดินลงมาเพื่อที่จะนอนต่อ บอกแล้วเราไม่รีบเราจะพัก
 
ผ่อนแบบสุดๆ สายๆ ค่อยออกเดินทางไปผาตั้ง เราจะเปลี่ยนที่นอนกันอีกแล้ว โปรดติดตามด้วยใจอันระทึก

มาต่อกันที่ผาตั้งที่นี่เค้ามีจุดชมวิวกันหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นเนิน 102 กับเนิน 103
 
จุดชมวิวผาบ่อง จุดชมวิวช่องผาขาด ศาลาเก๋งจีน 
เอาเป็นว่าถ้าได้มาแล้วก็เดินให้ครบละกันจะได้ไม่เสียเที่ยวขึ้นๆ ลงๆ เดินไปเดินมาหลายรอบ
 
ว่าแต่ว่าแค่เดินรอบเดียวก็แย่แล้ว

มาถึงดอยผาตั้งแล้ว ไม่ถ่ายรูปถือว่าผิด จริงๆ ก็ไม่ผิดหรอกเนอะ แต่ก็ถ่ายสักหน่อยเค้าจะได้รู้ว่ามาถึงแล้ว
 
ก็บอกแล้วในส่วนของภาพสวยๆ ให้เป็นหน้าที่ของช่างภาพไป บีบๆ นวดๆ พี่เค้าเดี่ยวก็ใจอ่อน (รักนะจึงหยอกเล่น)

อย่างที่บอกว่ามีจุดชมวิวหลายจุด แต่ละที่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ
 
หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จเดี๋ยวเราจะไปกางเต้นท์กัน

ตั้งแต่มาทริปนี้ยังไม่เสียตังค่าที่พักซักกะบาท คุ้มจริงๆ จะเรียกว่าประหยัดก็ไม่ใช่เพราะเราเอาเงิน
 
ไปจ่ายค่าตั๋วกับเช่ารถหมดแล้ว ฮ่าฮ่า

นอกจากเราจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว เรายังได้ดูพระอาทิตย์ตกอีกด้วย แนะนำให้จับมือคนข้างๆ มาด้วยกัน
เพราะบรรยากาศมันโรแมนติกมาก สายลม แสงแดดและเกลียวคลื่น เอ้ยไม่ใช่ ลมหนาวๆ กับกอดอุ่นๆ ถึงจะถูก

แน่นอนว่าหนาวขนาดนี้ต้องก่อกองไฟเช่นเคย มันหนาวจนไม่รู้จะพูดยังไง หนาวขนาดที่ต้องพกผ้านวมผืนใหญ่

มาเลยมีผ้านวมผืนใหญ่แล้วชีวิตจะง่ายขึ้น จิบเบียร์เย็นๆ ก็ช่วยทำให้ร่างกายอุ่นเหมือนกัน

เค้าบอกมาไม่รู้เค้าไหน แต่อ๊อฟก็ยังหนาวเหมือนเดิมแน่นอนว่าน้ำเนิ้มต้องไม่ได้อาบทิชชู่เปียกเท่านั้น

หนาวขนาดนี้จะบ้าหรอ จะให้อาบน้ำยังไง เช็ดตัวแล้วไปนอนซะ เนื่องจากมันเป็นที่โล่ง กลางคืนลมจึงแรงมาก

เช่นกัน แรงจนเต้นท์สั่นเลยทีเดียว แต่ก็ผ่านไปด้วยดีสำหรับการนอนเต้นท์ของเรา

จะดีแค่ไหนที่ตื่นมาเจอฟ้าสวยๆ อากาศเย็นๆ แบบนี้ ใครที่ยังลังเลว่าจะมากางเต้นท์ดีมั้ย ขอร้องหละมาเถอะ
 
รับรองว่าฟิน บรรยากาศดี วิวดี ทุกอย่างมันดีไปหมด เก็บเงินแล้วจองตั๋วซะ ถ้าจะเที่ยวเหนือสักครั้ง
 
ก็เชียงรายนี่แหละ ที่ ” ต้องมา”

สวัสดีค่ะ วันนี้อ๊อฟขอพักเรื่องสวยๆงามๆและการออกกำลังกายก่อน  วันนี้อ๊อฟจะมารีวิวสถานที่ถ่ายรูป
ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานแต่จะบอกว่ามันสวย และเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก

นั่นก็คือ”ชมเฌย”นั่นเองบางคนอาจจะยังไม่รู้จักต้องบอกก่อนว่าเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาเป็นเมืองเก่า
ย้อนยุคไปหลายปีของที่ตกแต่งภายในก็ของเก่าและหายากทั้งนั้น
ด้านในก็มีโรงหนังเก่าซึ่งมีหนังเก่าฉายจริงๆ ของด้านในก็ของเก่าจริงๆ

เมื่อเข้ามาเราจะเห็นว่ามันเป็นเมืองเล็กๆเมืองนึงเลยรายละเอียดทุกอย่างดีมาก

แต่ละมุมน่าถ่ายรูปทุกมุมอ๊อฟเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเพื่อที่จะถ่ายแบบชุดไม่ซ้ำด้วย ชุดที่เลือกอ๊อฟแนะนำว่า
ควรจะเป็นแบบลูกไม้กระโปรงหรือชุดอะไรก็ได้ที่ดูเข้ากับสถานที่เวลาถ่ายออกมามันจะดูสวยมากดูกลมกลืน
คนที่มาส่วนใหญ่ก็มาถ่ายรูปทั้งนั้น
เห็นภาพออกมาสวยๆแบบนี้แต่จะบอกว่าร้อนมากกกกก แต่อยากมีรูปสวยๆก็ต้องยอมเนอะ
อ๊อฟนี่เดินจนหัวร้อนเลย

ตามร้านแบบนี้จะมีรั้วกั้นไม่ให้เข้าไปนะคะเพราะเป็นของเก่าบางชิ้นก็มีมูลค่ามาก 
ดังนั้นถ่ายแต่ข้างนอกเนอะถึงขนาดมีรั้วกั้นแบบนี้ก็ยังมีคนเข้าไปอีก

ใครที่ชอบดูของเก่าๆหายากที่นี่เค้ามีเยอะมากของบางอย่างก็เกิดไม่ทัน

สิ่งที่แนะนำเลยมาทุกที่ควรถ่ายทุกมุมจริงๆ

กำแพงที่นี่เค้าดูแนวดีเนอะยืนถ่ายสักหน่อย

อากาศร้อนแบบนี้ต้องเก๊กฮวยแก้วใหญ่ๆเติมความสดชื่น
มาที่นี่ไม่ต้องกลัวหิวนะคะที่นี่เค้ามีร้านอาหารบริการเดินๆหิวแวะมาทานได้ทันที

ถ้ามาวันธรรมดาคนจะไม่ค่อยเยอะแต่ถ้าเสาร์-อาทิตย์ต้องรออาหารกันหน่อยนะคะเพราะมีร้านเดียว

สั่งอาหารเสร็จก็ออกมานั่งทานข้างนอกได้ค่ะร้อนแบบนี้เห็นแล้วอยากโดดน้ำ

มาที่นี่ต้องกินเมนูนี้โกโก้มิลค์ตัวน้ำแข็งเป็นโกโก้เข้มๆ ราดนมจืดหอมๆมันๆเทไซรัปนิดๆเข้ากันกำลังดี

ราคาก็ไม่ได้แพงเหมือนร้านกาแฟ ร้านอาหารทั่วๆ ไป ถ้ามาวันธรรมดาคนจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็เยอะพอประมาณ อาคารที่นี่จะสร้างในสไตล์โคโรเนียล จึงทำให้ย้อนกลับไปเหมือน
อยู่ในรัชกาลที่ ๕ที่นี่เค้ามีโรงหนังที่ฉายหนังเก่าๆ ด้วยนะ น่าสนใจมาก ใครที่วันหยุดไม่รู้จะไปไหนขอให้มาที่นี่ดู
รับรองจะชอบ ปล.แดดร้อนมากกกกกกกกกก
ที่ตั้ง : 68 หมู่ 4 ซอยกำนันทินกร ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : ปิดวันจันทร์ วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
รูปแบบเต็มๆ ทุกมุมแบบจุใจตามเข้าไปดูได้ในลิงก์เลยค่า

สวัสดีค่ะวันนี้อ๊อฟจะพาไปเดินเล่นกันที่”บ้านบางเขน”  จะบอกว่าไปเถอะสถานที่มันดีมากอ๊อฟไปอยู่ตั้งแต่เที่ยงๆ ยันมืดเลยเพราะที่นี่เค้าเปิดกัน24ชม.วิวดีมากกลางวันก็สวยกลางคืนพอเปิดไฟก็โคตรสวยที่นี่เค้าเป็นศูนย์การเรียนรู้ศึกษาเรื่องราวในอดีตที่มีทั้งของเก่าโบราณมีบ้านพ่อหลวงมีของสะสมหายากจำลองสถานที่เก่าๆไว้มากมายใครที่เป็นสายวินเทจยิ่งห้ามพลาด
ที่นี่เค้าตกแต่งแบบสมัยเก่าจำลองออกมาเป็นบ้านเรือนที่มีความเก่าแก่ มีผนังเก๋ๆให้ถ่ายรูปหลายมุม
ที่นี่เหมาะมากแก่การมาถ่ายรูปเล่น
ซึ่งที่เราเห็นส่วนมากก็เป็นไม้แทบทั้งนั้นมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆเยอะมาก  ถ่ายได้แทบทุกมุมเลย
ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ภาพสวยๆกลับไปรับรองได้ภาพแน่ๆ
วันธรรมดาคนจะไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่แต่ถ้าเสาร์-อาทิตย์คนมาเดินเล่นเยอะแน่นอน
แต่ถึงจะเยอะก็ยังสามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยนะเออ
จะมากับเพื่อนกับแฟนหรือพาครอบครัวมาอ๊อฟก็ว่ามันเหมาะมาก
เพราะที่นี่เค้ามีอะไรน่าสนใจตั้งหลายอย่าง

ยิ่งพาคุณพ่อคุณแม่มาอ๊อฟว่าท่านน่าจะชอบเพราะมันทำให้รำลึกถึงความหลังดี
ที่นี่นักศึกษามาก็เยอะส่วนมากมาอ่านหนังสือคุยการกันเพราะเค้ามีสถานที่แอร์เย็นๆ ไว้บริการ

นี่ถ้ามีหนังสือให้อ่านแบบห้องสมุดนะอ๊อฟว่าฟินนั่งอ่านมันทั้งวัน
เดินกันเหนื่อยแล้วที่นี่เค้าก็มีคาเฟ่ไว้บริการแถมเปิด 24ชม. อีกต่างหาก
คาเฟ่ที่นี่ค่อนข้างใหญ่ตกแต่งสวยงามน่านั่งมากมีมุมสวยๆเพียบ
ที่สำคัญบิงซูอร่อยมากถ้วยละร้อยกว่าบาทเองไม่แพงเลย  แถมเอาตั๋วค่าเข้าที่เราเสียไป 20 บาท
มาเป็นส่วนลดค่าอาหารได้อีกด้วย
หน้าตาคูปองที่เราต้องเสียก่อนเข้าบ้านบางเขน ไม่แพงเลยเพราะเราไม่ได้เสียไปเปล่าๆ
ได้ใช้เอามาเป็นส่วนลดค่าอาหารอีก
หลังจากกินกับอิ่มเราก็จะไปถ่ายข้างนอกกันต่อ
อ๊อฟมาตั้งแต่ช่วงบ่ายเลยมาอยู่จนถึงค่ำเพราะอยากเห็นบรรยากาศตอนกลางคืน
พอเค้าเริ่มเปิดไฟก็รู้สึกคิดถูกแระที่อยู่รอดู
บ้านต้นไม้เป็นจุดที่อ๊อฟชอบมากเพราะมองแล้วคิดถึงตอนเป็นเด็กๆอยากมีบ้านแบบนี้

มาที่นี่มีบ้านพ่อหลวงให้เข้าไปกราบเข้าไปดูด้วยของข้างในทำให้คิดถึงพ่อหลวงจริง ๆ

แค่ได้เข้ามาในนี้สำหรับอ๊อฟก็คุ้มแล้ว

ตอนกลางคืนที่นี่ยุงค่อนข้างเยอะนะคะถ้าใครจะอยู่ถึงมืดแนะนำควรพกซอฟเฟลมาค่ะ
ของเก่าที่นี่ก็มีให้เข้ามาดูและมาถ่ายรูปเล่นเยอะเลย เห็นแล้วคิดถึงตอนเป็นเด็กใช่มั้ยหละ
โซนด้านนอกอาหารจะหลากหลายมากกว่าก๋วยเตี๋ยวเอยข้าวเอยขนมเอยเยอะแยะไปหมด
มีให้กินกันจนมืดแต่ตรงนี้ไม่ได้เปิด 24 ชม.นะคะ

ใครไม่รู้จะไปไหนแวะมาที่บ้านบางเขนรับรองอิ่มท้องและอิ่มใจกลับไปในแน่นอน

*บ้านบางเขนอยู่เขตบางเขนตรงข้ามราบ11ติดสวนอาหารบางบัว  
 
(มีที่จอดรถฟรีแต่ไม่เยอะมาก) ถ้าจอดรถที่สวนอาหารบางบัวเสีย50บาท 
 
**ค่าเข้าคนละ20บาท
สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกแล้วแต่วันนี้ไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางหรือสอนแต่งหน้านะคะ
วันนี้จะมารีวิวอุปกรณ์ที่สาวๆ Beauty Blogger ใช้ในการทำงาน เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์หลักรองลงมา
จากเครื่องสำอางเลยแหละนั่นก็คือ ” กล้อง “นั่นเอง และจะเป็นยี่ห้อไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก SONY  
ต้องขอเท้าความก่อน ตอนที่อ๊อฟเขียน Blog ครั้งแรกกล้องตัวแรกของอ๊อฟเป็น DSLR
อ๊อฟใช้ canon 600D พร้อมกับเลนส์ kit 18-135 นั่นคือกล้องตัวแรกที่อ๊อฟซื้อเลย
และใช้พกไปไหนมาไหนตลอด ไปอีเวนท์ก็เอาไป เซลฟี่ก็ยังทำเพราะจอมันฟลิปได้
หลังๆ เริ่มขี้เกียจเพราะมันหนักมาก เริ่มแบกไม่ไหวแล้วก็ไม่มีคนช่วยถ่ายให้ด้วย
เลยถามๆ เพื่อนที่เป็น Blogger ว่าเค้าใช้กล้องอะไรถ่ายงานกัน ตอนนั้นรู้สึกจะเป็น Sony Nex5t 
เราก็เลยเก็บเงินซื้อตาม ใช้แล้วชอบมากเพราะมันเล็ก น้ำหนักเบา เปลี่ยนเลนส์ก็ได้
ส่งไวไฟแล้วอัพลงเฟสอัพลงไอจีได้อีกด้วยก็ใช้สลับกันไปมา จนมาหลังๆ ก็เห็นว่าเค้าเปลี่ยนรุ่นกันเป็น
Sony A5100 ถ่ายวิดิโอโดยใช้กล้องตัวนี้ แล้วภาพมันคมสวยดี เลยเริ่มสนใจเลื่อนฟีดดูไอจีเพื่อนๆ Blogger
ก็เห็นแต่ใช้ตัวนี้กัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปจับได้ไปลองกะเค้าสักที ว่าถ่ายออกมาจะเป็นยังไงบ้าง
จะให้หันไปมองกล้องที่มีขนาดตัวรับภาพแบบ micro 4/3 ก็คงไม่ไหว เพราะถึงเราจะแค่ถ่ายภาพสนุกๆ
แต่เราก็ยังอยากได้คุณภาพของภาพที่ดี พอได้ลองเล่นเลยรู้สึกว่า เออแฮะ มีกล้อง A5100 ตัวนี้ตัวเดียวจบเลย
ไม่ต้องเลือกว่าจะเอาภาพนิ่งดีหรือจะเอาไฟล์วิดิโอดี เพราะตัวนี้ดีสองอย่างเลย
วันนี้เลยเอารีวิวมาฝากกันค่ะ เป็นการใช้กล้องตามสไตล์อ๊อฟอาจจะถ่ายออกมาไม่ถูกหลักบ้าง
ไม่สวยบ้างแต่ขอลงเป็นภาพเรียลๆ จากกล้องให้ดูกันเนอะ และความรู้สึกการใช้กล้องของอ๊อฟว่าเป็นยังไงบ้าง 

ก่อนจะไปดูรีวิวภาพจากกล้อง Sony A5100 มาดูข้อมูลของกล้องกันก่อนเนอะ
– จำนวนพิกเซลของ Sony A5100 ประมาณ 24.3 ล้านเมกะพิกเซลจำนวนพิกเซลที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้รายละเอียดภาพสูงขึ้น
– เซนเซอร์รับภาพ Exmor APS HD CMOS ความละเอียด 24.3 ล้านพิกเซล ขนาดใหญ่เทียบเท่ากล้องแบบ DSLR
– ISO 25600 ความไวแสงที่เพิ่มขึ้น สามารถเก็บภาพที่มีแสงน้อยได้ดีขึ้น
– Fast Hybrid AF ออโต้โฟกัสแบบใหม่ที่รวดเร็วขึ้นสามารถจับวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ดีกว่าเดิม
– 179 (phase-detection AF) / 25 (contrast-detection AF) ระบบออโต้โฟกัสแบบใหม่ ที่ครอบคลุมทั้งภาพเกือบ 90% ทำให้ใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบติดตามวัตถุได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
– 3.0-type (touch panel) 921k dots หน้าจอแบบทัชสกรีนทำให้ง่ายต่อการโฟกัสและกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ
– บันทึกวิดิโอแบบ Full HD พร้อมกับระบบโฟกัสแบบ Fast Hybrid AF แสดงผลเต็มประสิทธิภาพด้วยตัวประมวลผลภาพ  BIONZ X ที่มีความไวแสงสูงและสญญาณรบกวนตํ่า แสดงผลได้อย่างดีเยี่ยมด้วยขนาดเซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่แบบ APS-C
ส่วนรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ทางเวปไซต์ของโซนี่ได้เลยค่ะ
 
ด้วยจอแบบนี้ ไม่มีช่องมองภาพด้วยแล้ว ปัญหาของการถ่ายรูปกลางแจ้งคือ มองไม่เห็นจอ แต่ไม่ต้องกังวลไป 
เพราะเราสามารถเข้าไปปรับในเมนู monitor brightness หรือชื่อภาษาไทยคือความสว่างหน้าจอ
เวลาถ่ายกลางแจ้งก็กดเข้าไปเลือกเป็น sunny weather หรือ สภาพแสงแดดจ้า
ก็จะสามารถถ่ายกลางแจ้งมองจอได้อย่างสบายๆ

อีกเหตุผลนึงที่เลือกซื้อกล้องตระกูล Sony เลย เพราะมันเซลฟี่ตัวเองได้ ใครจะไม่ชอบบ้าง
หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921 k ปรับหน้าจอได้ 180 องศา ข้อดีอีกอย่างที่บอกไป
หน้าจอแบบทัชสกรีนมันสะดวกสบายมาก อยากให้ตรงไหนชัด จะโฟกัสจุดไหนก็จิ้มนิ้วไปได้เลย
ทำให้การโฟกัสของเราเร็วขึ้นไม่พลาดช่วงเวลาสำคัญๆ

มาถึงเรื่องน้ำหนักจะบอกว่าเบามาก พกพาไปไหนสะดวกสบาย สะพายไม่เจ็บไหล่
ถ้าใครเคยแบกกล้อง dslr มาก่อนแล้วลองมาหยิบจับกล้อง mirrorless จะลืมเรื่องน้ำหนักไปเลย
อ๊อฟไม่แน่ใจนะคะ ว่าคุณผู้ชายๆ จะชอบกล้องสไตล์นี้หรือเปล่าแต่สำหรับผู้หญิงอย่างเรา
ตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างตามเวลา ต้องบอกว่าชอบสุดๆ เพราะนอกจากเครื่องสำอางที่ต้องแบกก็หนักมากอยู่แล้ว
พกตัวนี้ลืมความหนักไปเลย หิ้วถุงเสื้อผ้า กระเป๋ารองเท้า ยังหนักกว่านี้อีก
แน่นอนว่าถ่ายรูปเสร็จก็ต้องอยากแชร์ ไปไหน ไปทำอะไรขอให้ได้อัพเดตนิดนึงเถอะ
ก็สะดวกสบายตามท้องเรื่อง

ใช้ playmemories app ในการส่งรูป และยังสามารถใช้มือถือเป็นรีโมตได้อีกด้วย เวลาไม่มีคนถ่ายให้ก็นี่แหละ
ตั้งกล้องแล้วดูเฟรมในมือถือไป จะมุมเผลอจริงๆ หรือหลอกๆ ก็กดชัตเตอร์จากมือถือกันไปรัวๆ ได้เลยจริงๆ
ซึ่งวันนี้ก็จะมาพร้อมกับเลนส์ kit 16-50 แล้วก็เลนส์ 35mm f 1.8 เดี่ยวภาพจะเป็นยังไงค่อยๆ ดูกันนะคะ

และสิ่งที่เราต้องการนอกจากคอร์สเลเซอร์ความงามแล้วคือการมีผิวเรียบเนียนแม้เวลาถ่ายรูป
ถ้าเงินไม่พอทำเลเซอร์ก็ขอให้กล้องช่วยหน่อยละกันกับฟีเจอร์ Soft Skin Effect ที่ช่วยปรับผิวเราให้เนียนใสกิ๊ก
เหมือนตูดเด็กในรูปยังไม่เปิดโหมดเนอะ ก็จะเห็นร่องรอยอารยธรรมผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร
ก็ดูสดใสเป็นธรรมชาติดี
(ในรูปอ๊อฟถ่ายมามืดนึดนึงนะคะ เลยเอามาปรับให้สว่างขึ้นค่ะ)

เค้าปรับได้ถึง 3 ระดับเลย อ๊อฟก็เลือกมาแบบสูงสุด เนียนกริ๊บจนคนข้างๆ ต้องตกใจ ถึงหน้าจะเนียนแต่ความ
คมของภาพก็ยังอยู่เนอะแต่ว่าถ้ากลัวจะเนียนไปก็เลือกระดับกลางได้ค่ะ
ที่อ๊อฟถ่ายมาก็อยากให้เห็นความแตกต่างเลยเลือกแบบเนียนสุดมาให้ดูค่ะ
ส่วนเลนส์ที่ใช้เซลฟี่อ๊อฟใช้เลนส์คิท 16-50 กำลังดีค่ะ เก็บได้หมด ระยะเซลฟี่กำลังดี
ไม่ต้องซูม ถ่ายได้อีกหลายคนเลย

(ในรูปอ๊อฟถ่ายมามืดนึดนึงนะคะ เลยเอามาปรับให้สว่างขึ้นค่ะ)

นอกจากโหมดหน้าเนียนแล้วก็ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีกมากมาย มีปรับฉากหลังนอกโฟกัส
แบบหน้าชัดหลังเบลอหรือปรับความสว่าง
ปรับโทนสีของ ปรับความสดของภาพ หรือเอฟเฟ็คของภาพแบบต่างๆ  มีขาวดำ มีแนวเรโทร
กล้องทอยและอื่นๆ อีกมากมาย
ก็เหมาะกับคนที่ชอบแต่งภาพ เพียงแต่เราถ่ายแล้วออกมาแบบนี้เลย
ไม่ต้องนำไปปรับใส่ฟิลเตอร์อะไรอีก ก็สนุกดีค่ะ

ในส่วนของเลนส์คิทอ๊อฟว่าทำได้ดีเลยนะคะ ไม่ได้แย่เลย รายละเอียดก็เก็บมาได้ดี ท้องฟ้า
ก้อนเมฆถ่ายออกมาก็ยังครบเลยใครที่ยังถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งก็ไม่ต้องกลัว เพราะเค้ามีโหมดให้เลือกมากมาย
แต่ที่อ๊อฟถ่ายส่วนมากใช้โหมด m ค่ะหน้าชัดหลังเบลอ อันนี้ได้ยินบ่อยมาก ต้องทำยังไง ถ่ายยังไง
ขออธิบายตามที่อ๊อฟเข้าใจนะคะ การทำหน้าชัดหลังเบลอนั้นควรจะใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างหรือค่าแสงต่ำๆ
ถ้าถามว่าเลนส์คิททำได้มั้ย ก็ได้ค่ะ แต่ก็จะไม่ละลายหรือเบลอหลังเท่า
ไหร่เพราะรูรับแสงต่ำสุดของเลนส์คิทน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 ตอนไม่ซูมและ 5.6 ตอนที่ซูมจนสุด
ดังนั้นถ้าอยากได้แบบหลังละลายมากๆ ก็ต้องเลือกเลนส์ให้เหมาะนิดนึงเนอะ
ต่อไปจะเป็นภาพที่ถ่ายจากเลนส์ 35mm f1.8 นะคะ
ถ้าถามว่าเลนส์ 35 เหมาะกับถ่ายวิวมั้ย อ๊อฟว่าก็อาจยังไม่ค่อยเหมาะ
เพราะมันอาจเก็บได้ไม่หมด จะต้องถอยมาไกลหน่อย
แต่ถ้าถ่ายอะไรทำนองต้นไม้ ใบหญ้า คนหรือสิ่งของก็ออกมาดูดีเชียวแหละ เบลอหลังละลายเชียว
ถ้าใครชอบไปทานข้าวแล้วชอบถ่ายอาหาร ขนมของกินต่างๆ ก็เหมาะอยู่นะคะ
ในร้านที่มีแสงไม่ได้เยอะมาก ถ่ายออกมาก็โอเคเลย

ส่วนเรื่องโฟกัสไวต้องยอมรับเลย ว่า sony ทำได้ดีมาก จะถ่ายเด็กนี่เหมาะมากเพราะเค้าจะยุกยิกตลอดเวลา
จังหวะที่ถ่ายรูปนี่คือเด็กกำลังหันหน้าไปและหันกลับมาก็จับภาพได้พอดี เป๊ะภายในช็อตเดียว

ส่วนเรื่องโทนสีภาพของ sony ส่วนตัวอ๊อฟว่าติดเหลืองไปนิดนึง แต่ก็สามารถเข้าไปปรับตั้งค่า white balance
ได้นะคะ เลือกให้เหมาะกับสภาพตอนนั้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครถ่ายรูปมาแล้วไม่รู้จะปรับยังไง
แต่อยากได้ภาพแบบโทนชมพูก็ลองใช้พวกโปรแกรม Lightroom ปรับได้เหมือนกันค่ะ
อีกเรื่องนึงที่อ๊อฟเจอหลังจากถ่ายคือโฟกัสมันไวก็จริงแต่บางครั้งมันก็ดิ้นไปโฟกัสตรงอื่นได้เหมือนกันค่ะ

พอจะถ่ายอีกรูปนึงจิ้มที่เดิมกดถ่าย โฟกัสก็วิ่งไปตรงจาน แต่ก็ไม่ได้เจอบ่อยค่ะ มีบ้างเหมือนกัน
สรุปๆๆๆ เลยดีกว่าเนอะ เป็นกล้อง mirrorless ที่ใช้งานง่าย ไฟล์ภาพสวยไม่ต้องปรับแต่งอะไรมาก น้ำหนักเบา พกพาง่ายแต่ต้องระวังฝาเลนส์หลุดหาย (สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วกับฝาเลนส์) ถ่ายปุ๊ปอัพรูปลงไอจี ทุกวันนี้อ๊อฟไม่ถ่ายรูปจากกล้องมือถือเลย เหมาะกับคนชอบถ่ายเซลฟี่ถ่ายวิดิโอเพราะจอมันฟลิบได้ ถ่ายฮาวทูโน่นนั่นนี่ ได้สะดวกสบายเซลฟี่ได้ถนัดมือจะกี่แอ๊คก็ถ่ายไป ถ้าผิวหน้าแย่ โหมดหน้าเนียนใสก็ช่วยชีวิตได้ จริงๆ แล้วมันก็ยังมีอีกมากมายอ้อ จะเรียกว่าข้อเสียมั้ย เพราะราคาเลนส์มันแพงอ่า แล้วอ๊อฟเป็นคนที่เลนส์งอกยากมาก ทุกวันนี้ตัว sony nex5t ก็ยังใช้เลนส์ kit อยู่เลยเอาเป็นว่าไปลองจับเล่นดู แล้วความรู้สึกมันจะบอกเองว่าใช่ไม่ใช่ ชอบไม่ชอบ วันนี้ก็มารีวิวตามสไตล์อ๊อฟหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจได้บ้างนะคะ ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยกันด้วยนะคะ